สวัสดีค่า บล็อคนี้จ๊ะจ๋าขอมาแบ่งปันประสบการณ์ศัลยกรรมของตัวเองที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนี้เองค่ะ
ศัลยกรรมที่ว่านั่นก็คือเสริมหน้าอกนั่นเองค่ะ เนี่องจากเป็นคนหน้าอกเล็กเนอะ เพื่อนๆก็ชอบแซยว่าไข่ดาว ไม้กระดาน แบน ฯลฯ เราก็อายนิดๆ ปกติใช้ชีวิตแบบใส่เสื้อในเสริมฟองน้ำแบบหนามาตลอดค่ะ ไม่งั้นก็จะไม่ใช่ผู้หญิง 55555 ความรู้สึกที่อยากจะทำหน้าอกมีมานานแล้วค่ะ ตั้งแต่เริ่มโตเป็นสาวเลย เห็นเพื่อนๆเค้ามีหน้าอกเราก็อยากจะมีบ้าง อยากจะใส่เสื้อผ้าให้สวยๆ อยากจะใส่บิกินี่ คือหุ่นทุกอย่างสามารถใส่บิกินี่ได้แต่มาจบที่หน้าอกที่ทำให้เราใส่ไม่ได้ ก็เลยมีความมุ่งมั่นว่ายังไงก็ต้องเสริมหน้าอกตอนที่ยังเอ๊าะๆเป็นวัยรุ่นอยู่แน่นอน
จ๊ะจ๋าเลือกเสริมหน้าอกที่ Dream Clinic ค่ะ
คลีนิคตั้งอยู่ที่รัชดาค่ะ ในโครงการ The wiz ถ้ามาง่ายคือนั่ง MRT มาลงที่สถานีรัชดาเลยค่ะ ก็ถึงเลย
จ๊ะจ๋าหาข้อมูลการทำหน้าอกมานานเลยค่ะ ต้องพูดว่าว่างเมื่อไหร่เป็นนั่งดูรีวิว 5555
แล้วก็ได้ดูหลายที่หลายคลีนิคเลย แล้วก็เคยไปปรึกษาคุณหมอมา 2-3 คลีนิคค่ะ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ตัดสินใจทำ เพราะมีเรื่องบางอย่างที่เราอยากรู้แต่คุณหมอเค้ายังบอกไม่หมด แล้วบางที่ก็ไม่ได้สร้างความมั่นใจว่าจะต้องออกมาดีเลย ก็ลองหาข้อมูลผ่านเว็บ http://www.clinicdream.com/ มาค่ะ
ที่นี่เค้ามีศัลยกรรมความงามหลายอย่าง
สร้างความมั่นใจในการที่จะศัลยกรรมด้วยการหาข้อมูลแพทย์
คุณหมอที่จะศัลยกรรมที่ Dream Clinic คือ นายแพทย์ทรงยศ จันทจิตร์ ค่ะ
จ๊ะจ๋าก็เข้าไปดูประวัติของคุณหมอในเว็บไซต์ Cr. http://www.clinicdream.com/about-us/our-doctor/
และแน่นอนว่าเสิจใน Google ด้วยค่ะ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมต้องถามอากู๋
มาปรึกษาคุณหมอค่ะ ก่อนจะมาก็ต้องโทรนัดคิวกับทางคลีนิคให้เรียบร้อยก่อนนะคะ
ก็ทำประวัติเล็กน้อยกับทางคลีนิคค่ะ แล้วก็มีการวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ใส่รายละเอียดอีกเล็กน้อย
ความต้องการของจ๊ะจ๋า :
อยากมีหน้าอกที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ยังดูเป็นธรรมชาติ ใส่เสื้อผ้าสวย ใส่บิกินี่ได้ ไม่ต้องพักฟื้นนานเกินเพราะต้องทำงานและอยู่คอนโดคนเดียว ไม่มีคนดูแลได้หลายวันค่ะจ๊ะจ๋าบอกความต้องการของตัวเองกับคุณหมอไปค่ะ
ระหว่างนั่งรอคุณหมอ พนักงานคลีนิคก็ต้อนรับอย่างอบอุ่นดีค่ะ มีเข้ามาพูดคุยถามไถ่ แล้วก็นำทางไปห้องเปลี่ยนชุดเพื่อใส่ชุดคลุมที่ทางคลีนิคเตรียมไว้ค่ะ
เมื่อเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปห้องปรึกษา พอเจอคุณหมอ จ๊ะจ๋าก็บอกความต้องการของตัวเองไปค่ะ ว่าอยากได้หน้าอกประมาณไหน ซึ่งบอกคุณหมอไปว่าประมาณคัพซีค่ะ คุณหมอวัดขนาดหน้าอกของจ๊ะจ๋าก่อนแล้วก็ให้ใส่บราและเสื้อของทางคลีนิค จากนั้นก็นำซิลิโคนแต่ละไซส์มาใส่ให้เราเลือกว่าชอบให้ใหญ่ประมาณไหน ขนาดไหนถึงจะเหมาะและดูดีกับรูปร่างของเรา ในขั้นตอนนี้จ๊ะจ๋าสนุกสนานเลยค่ะ เพราะมองในกระจกแล้วเรามีหน้าอก หน้าตาก็เบิกบานยิ้มร่า 555555
เลือกขนาดซิลิโคน : จ๊ะจ๋าเปรียบเทียบ 2 ข้าง ซ้าย 340 cc. และขวา 380 cc.
- ถ้าเลือก 340 cc. ก็จะได้ประมาณคัพบีปลายๆ ดูไม่ใหญ่เกินไป ขนาดปกติของสาวไทยที่มีหน้าอก ใส่ไซส์นี้แล้วจะพักฟื้นไว เพราะเนื้อหน้าอกจ๊ะจ๋ามีน้อยถ้าใส่ไม่ใหญ่ก็จะไม่ตึงแล้วก็จะดูธรรมชาติ
- ถ้า 380cc. ก็จะได้คัพซีค่ะ เป็นไซส์ที่คุณหมอให้ใส่ได้ใหญ่สุด ถ้าใหญ่กว่านี้ไม่แนะนำเพราะจะดูไม่เป็นธรรมชาติและหน้าอกจะออกด้านข้าง เนื้อจะตึงมากต้องพักฟื้นนานกว่าหน่อย จ๊ะจ๋าชอบไซส์นี้นะคะ เพราะดูไม่ได้ใหญ่เกินจนดูน่าเกลียดเนื่องจากเราเป็นคนตัวสูงด้วย อีกอย่างจะทำทั้งทีก็ขอเต็มที่ล่ะค่าาาา
เลือกซิลิโคน :
ที่คลีนิคมีแต่ซิลิโคนที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากอย.ไทยและสหรัฐอเมริกานะคะ ก็จะมี 3 ยี่ห้อด้วยกันคือ Mentor, Allergan และ Silimed ค่ะ
ชนิดของซิลิโคน :
- ซิลิโคนทรงกลม เหมาะกับคนที่มีเนื้อนมอยู่บ้าง ในปริมาณ ซีซี เท่ากันจะดูใหญ่กว่าทรงหยดน้ำ เวลาผ่าตัดนั้นทำง่ายกว่า เสร็จเร็วกว่า ท่านั่ง ท่านอนอาจจะเห็นเป็นทรงกลมตลอดเวลา ในท่ายืนอาจจะไม่ค่อยธรรมชาติเท่าไหร่
- ซิลิโคนทรงหยดน้ำ ดีกว่าทรงกลมในคนที่ ทุนเดิมมีน้อย คือเนื้อนมมีน้อย การใส่หยดน้ำจะดูเป็นธรรมชาติกว่า ในท่ายืนจะดูเห็นส่วนหยดน้ำสวยงาม ราคาจะสูงกว่า
ก่อนที่จะศัลยกรรมทุกคนก็ต้องมีตัวเลือกในใจอยู่แล้วใช่ไหมคะว่าอยากจะได้หน้าอกออกมารูปแบบไหน เท่าที่อ่านรีวิวมา หลายๆที่เค้าบอกว่าหน้าอกน้อยถ้าอยากจะให้ดูเป็นธรรมชาติควรเลือกทรงหยดน้ำ เพราะเนื้อน้อย เวลาใส่ออกมาแล้วจะได้ดูย้อยเหมือนของจริง จ๊ะจ๋าก็เชื่อแบบนั้นมาตลอด แต่พอได้คุยกับเพื่อนที่มีประสบการณ์เสริมหน้าอกมาแล้วก็เปลี่ยนความคิดค่ะ เค้าบอกว่าตอนแรกๆก็อาจจะดูกลมๆตึงๆ แต่พอผ่านไปสักพักหน้าอกก็เข้าที่ดูคล้อยสวยเป็นธรรมชาติเองไม่ต้องทำหยดน้ำหรอก ประหยัดกว่าตั้งเยอะ (นางว่างี้ 555)
Q : ทำหน้าอกแล้วถ้าจะมีลูกสามารถให้นมลูกได้มั้ยคะ
ให้นมลูกได้ตามปกติ
Q : อย่างจ๊ะจ๋าควรจะทำทรงไหนคะ
คุณหมอให้คำตอบว่าถึงแม้เนื้อหน้าอกของจ๊ะจ๋าจะน้อยแต่ทำทรงกลมก็ได้ และน่าจะสวยกว่า เพราะถ้าอยากจะแต่งตัว ใส่เสื้อผ้าให้ออกมาดูสวยควรเลือกทรงนี้ดีกว่า
Q : คุณหมอเลือกซิลิโคนชนิดไหนให้คะ
คุณหมอเลือกของ Allegan ขนาด 380 cc. เป็นซิลิโคนเจลเนื้อทราย
ซิลิโคนเนื้อทรายจะลดการเกิดพังผืดได้มากกว่าเนื้อเรียบค่ะ และไม่ต้องนวดเยอะมากก็นิ่ม
Q : ตำแหน่งที่จะผ่า
คุณหมอแนะนำการผ่าใต้ราวนมเพราะดูจากสรีระของจ๊ะจ๋าที่มีเนื้อหน้าอกน้อยและการผ่าทางนี้จะเจ็บน้อยกว่า พักฟื้นหายไวกว่า
เลือกตำแหน่งผ่านใต้กล้ามเนื้อจะได้หน้าอกที่ดูสวยกว่าบนกล้ามเนื้อ ไม่เป็นบล็อค เพราะว่าเนื้อจ๊ะจ๋าน้อย แต่จะเจ็บกว่าการผ่าบนกล้ามเนื้อ
ตำแหน่งแผลผ่าตัดเสริมหน้าอก
- บริเวณรักแร้ : แผลไม่ได้อยู่บริเวณนมทำให้รู้สึกมั่นใจหลังเสริม แผลที่รักแร้ถ้าผ่ากับคนที่เป็นคีรอยด์ก็อาจจะทำให้ไม่กล้ายกแขนหรือใส่แขนกุด สายเดี่ยว หลังทำจะเจ็บแผลกว่าใต้ราวนม
- ใต้ราวนม : แผลยาวประมาณ 3-4 cm.ก เจ็บน้อยกว่าผ่าจากบริเวณอื่น พักฟื้นไวกว่าผ่ารักแร้ หน้าอกย้อยลงมาปิดแผลพอดีจึงมองไม่ค่อยหรือไม่เห็นเลย
- บริเวณปานนม : คอนเซาท์ที่คลีนิคบอกว่าคนจีนส่วนใหญ่ชอบผ่านบริเวณนี้เพราะแผลค่อนข้างเล็กอยู่บริเวณปานนม แต่อาจจะใส่ขนาดใหญ่มากไม่ได้ และบางรายอาจหัวนมชาแต่มักจะเป็นชั่วคราว
การเลือกตำแหน่งซิลิโคนที่วางบนทรวงอก Cr.http://www.clinicdream.com/
ข้อดี | ข้อเสีย | |
ซิลิโคนวางใต้กล้ามเนื้อ | – ช่วยให้หน้าอกส่วนบนลาดลงดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นขอบโค้งไปตามถุงซิลิโคน จึงเหมาะกับคนผอม เนื้อผิวหนังบาง- ช่วยลดโอกาสเกิดพังผืดเกาะและหดรัดรอบซิลิโคนมากกว่าวิธีอื่น ทำให้อายุการใช้งานซิลิโคนยาวนานกว่า | – เจ็บกว่า เพราะต้องมีการตัดกล้ามเนื้อ จึงต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าการวางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ- ใช้แรงกล้ามเนื้อหน้าอกได้จำกัด จึงไม่เหมาะกับนักกีฬาที่ต้องใช้แรงกล้ามเนื้อหน้าอกอย่างหนัก |
ซิลิโคนวางเหนือกล้ามเนื้อ | – เจ็บน้อยกว่าเพราะไม่ต้องตัดกล้ามเนื้อ- ไม่มีผลกับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ- สามารถทำให้เต้านมชิดกันได้มากกว่า | – ไม่เหมาะกับคนผอม เนื้อผิวหนังบางเ พราะจะทำให้เห็นขอบบนซิลิโคนชัด- โอกาสเกิดพังผืดเกาะและหดรัดรอบซิลิโคนมากกว่าวิธีอื่น ทำให้อายุการใช้งานซิลิโคนน้อยลง |
Dual Plane ซิลิโคนวางใต้กล้ามเนื้อเฉพาะส่วนบน | – ช่วยให้หน้าอกส่วนบนลาดลงดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่มีความหย่อนของหัวนมและเนื้อเต้านมในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง | – เจ็บกว่า เพราะต้องมีการตัดกล้ามเนื้อ จึงต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าการวางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ |
เมื่อปรึกษาสอบถามข้อมูลจากคุณหมอเป็นที่พึงพอใจแล้วก็ทำการนัดคิวผ่าตัดเลยค่ะ จ๊ะจ๋าเลือกผ่าในอีก 5 วันถัดไปเลย เลือกวันเสาร์เพราะมีคนมารับและดูแลหลังผ่าตัด ก่อนวันที่จะผ่า 3 วัน เข้าไปรับยาทานกันบวมไว้ก่อนล่วงหน้าค่ะ จะได้ลดบวมได้ดียิ่งขึ้น
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- งดวิตามินทุกชนิด เพื่อปกป้องเลือดไหลไม่หยุดระหว่างผ่าตัด ลดการฟกช้ำของกล้ามเนื้อ ลดความเสี่ยงของอาการข้างเคียง
- ทำตัวให้แข็งแรง เนื่องจากจ๊ะจ๋าออกกำลังกายอยู่เป็นประจำอยู่แล้วก็เลยสบายมาก ไปตีแบดหรือวิ่งทุกสัปดาห์ และเนื่องด้วยการกลัวว่าหลังจากผ่าตัดแล้วจะต้องนั่งๆนอนๆ ไม่ได้ออกกำลังกายไปสักพัก กลัวอ้วนด้วยเลยออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ 5555
- งดน้ำ งดอาหารก่อนวันที่จะผ่า 12 ชั่วโมง ของจ๊ะจ๋านัดกับทางคลีนิคไว้ 10.30น. ก็งดน้ำ งดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืนเลยค่ะ (ถ้านับจะไม่ถึง 12 ชั่วโมงเพราะจ๊ะจ๋าไม่ได้ผ่าตอน 10.30น.นะคะ นี่แค่เวลานัดมาเตรียมตัวค่ะ)
- ใส่ชุดสบายๆแบบกระดุมด้านหน้า ก็เลือกชุดนอนนี่ล่ะเหมาะที่สุด
- นัดคนที่จะมารับกลับบ้านให้เรียบร้อย
ถ่ายรูปกับคุณหมอทรงยศสักหน่อยก่อนจะเข้าห้องผ่าตัดค่ะ
อยากบอกว่าคุณหมอใจดีมากๆค่ะ อยากรู้เรื่องไหน สงสัยอะไรก็ถามคุณหมอได้หมดเลยค่ะ คุณหมอยินดีที่จะตอบแบบไม่รำคาญเลยสักนิด แม้คำถามที่ดูบ้าๆบอๆของจ๊ะจ๋าเช่น
Q : เคยได้ยินข่าวมาว่ามีเสียชีวิต ซิลิโคนระเบิดตอนขึ้นเครื่องบิน แล้วหนูจะเป็นแบบนั้นมั้ยคะ
คุณหมอถึงกับขำ ในกรณีเคสนี้คือซิลิโคนเค้าอาจจะไม่ได้มาตรฐานทำมาไม่ดี เมื่อขึ้นบนเครื่องบินแล้วความกดอากาศมันต่ำก็เลยอาจจะระเบิดได้ ถ้ามีอากาศอยู่ในซิลิโคนแล้วเราอยู่บนท้องฟ้า อากาศในซิลิโคนจึงดันทำให้ซิลิโคนแตกได้ (ให้นึกถึงถุงขนมที่พองโตแทบจะแตกเมื่อขึ้นเครื่องบิน)
เคยได้ยินมาว่าบางคลีนิคที่ไม่มีจรรยาบรรณมีการแอบสลับเปลี่ยนซิลิโคนที่โชว์ให้เราดูกับซิลิโคนที่เสริมไป
จากในรูปคือกล่องซิลิโคน Allegan 380cc. ที่จะใส่เข้าไปในหน้าอกจ๊ะจ๋าค่ะ
ข้างในกล่องจะมีซิลิโคน, การ์ดประกันซิลิโคน, หนังสือ 1 เล่มและสติกเกอร์อีกหลายแผ่น สติกเกอร์มีเยอะซึ่งทางคลีนิคสามารถเก็บไว้ใช้หลอกคนไข้รายอื่นๆได้ แต่ถ้าเป็นกล่องและหนังสือรับรองพร้อมการ์ดนั้นจะมีแค่ชิ้นเดียวเท่านั้นค่ะ เราต้องขอเก็บกลับบ้านด้วยเพื่อความมั่นใจ เพราะเค้าคงไม่ให้ญาติเราเข้าไปยืนดูตอนผ่าว่าใส่ซิลิโคนตามที่ตกลงกันไว้หรอกจริงมั้ย
นี่คือขนาดซิลิโคน 380cc. ทรงกลม พร้อมการ์ดของจ๊ะจ๋าค่ะ
จากนั้นก็ขึ้นไปชั้น 3 ของคลีนิคเพื่อทำการเปลี่ยนชุด ถอดชุดตัวเองออกแล้วใส่กางเกงในสีดำโดยสวมเสื้อคลุมออกมา
ทำการถ่ายรูปก่อนเสริมหน้าอก จากนั้นคุณหมอก็ทำการวัดหน้าอกอย่างละเอียดค่ะ ขั้นตอนนี้ต้องยืนนิ่งๆประมาณ 10 นาที คุณหมอทำการวัดฐานหน้าตก ตำแหน่งของปานนม ความห่างของหน้าอก และต้องยกแขนขึ้นเพื่อดูตำแหน่งของหน้าอก ซึ่งหน้าอกจ๊ะจ๋า 2 ข้างไม่เท่ากันค่ะ จะต่างกันแค่นิดหน่อย คุณหมอบอกว่าเดี๋ยวเสริมซิลิโคนเข้าไปจะปรับให้ตำแหน่งหน้าอกเท่ากันมากขึ้น จากนั้นก็เข้าห้องผ่าตัดค่ะ
ถึงเวลาเปลี่ยนเป็นคนใหม่
จ๊ะจ๋าเดินเข้าไปในห้องผ่าตัดก็เจอทีมแพทย์รออยู่ค่ะ เค้าให้ลงนอนที่เตียง จากนั้นก็ทำการเจาะใส่สายน้ำเกลือที่มือข้างซ้าย ใส่ที่วัดชีพจรที่นิ้วชี้ข้างขวาและใส่ที่วัดความดันที่ขาขวา ระหว่างที่นอนรอก็ใจเต้นตึกตัก ตื่นเต้นมากและบอกเลยว่าเริ่มป๊อด ก่อนหน้านี้ดี๊ด๊ามาตลอด 5555 สักพักเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวจะฉีดยานอนหลับเข้าไปทางสายน้ำเกลือ อาจจะเจ็บปวดหน่อย ตอนที่ฉีดนี่ก็หันไปมอง กำลังฉีดน้ำสีขาวๆข้นๆเข้ามาทางสายน้ำเกลือ ตอนแรกก็ยังไม่รู้สึกอะไร แปปเดียวเท่านั้นล่ะรู้เรื่องเลย มันปวดตึบๆแล้วก็คร่อกกกกกก
ลืมตาแบบสะลึมสะลือตอนที่เค้ากำลังย้ายตัวออกจากห้องผ่าตัดแล้วก็ย้ายไปที่เตียงพักฟื้น รู้ตัวแล้วก็หลับต่อ รู้สึกง๊วงง่วงงงง เมื่อคืนก่อนที่จะมาผ่าตัดก็นอนตี 3 กว่าละเนอะ นั่งปั่นงานไว้ล่วงหน้า ได้นอนประมาณ 4-5 ชั่วโมงเองค่ะ แล้วจ๊ะจ๋าก็ตื่นอีกทีตอนเย็นๆ ความรู้สึกแรกเลยคือหนักๆหน้าอก ไม่ได้รู้สึกเจ็บเท่ากับหนัก ฮ่าๆ ตอนลุกไม่กล้าลุกค่ะ ให้พนักงานช่วยกันพยุง 2 คนแล้วก็นั่ง จากนั้นเกร็งขาแล้วก็ลุกขึ้นยืน จุดพีคคือเดินลงบันได้จากชั้น 3 ลงมาข้างล่างโดยที่เบลอๆเนี่ยล่ะ พอดีว่าจ๊ะจ๋าใส่คอนแทคเลนส์มาค่ะแล้วต้องถอดก่อนผ่าตัด ขากลับก็มองไม่ค่อยเห็นสิค้าบบบ จ๊ะจ๋าขอแนะนำว่าไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างค่ะ ทางที่ดีใส่แว่นมาเลย 5555
ก็ค่อยๆเดินลงมาพร้อมกับมีคนคอยพยุง 2 คน แล้วก็ให้แฟนที่มานั่งรออยู่แล้วขับรถมารอหน้าคลีนิค ก็ขึ้นรถกลับบ้านพร้อมยาทานตามที่แพทย์สั่งค่ะ ระหว่างทางก็เอามือทาบหน้าอกเบาๆแล้วก็พูดว่า “จ๋ามีนมแล้วนะ” 5555555
วันที่ 2
ความรู้สึกหลังผ่า คืนแรกอาจจะเจ็บหน่อยค่ะ แต่ก็ไม่ได้เจ็บเหมือนรถสิบล้อทับ(ได้ยินมาว่างั้น) ตื่นมากลางคืนก็กินยาแก้ปวดเสร็จก็หลับต่อ ตอนเช้าก็ลุกขึ้นมานั่งเล่นที่โซฟาค่ะ ตัวบวมๆอาจจะเป็นเพราะบวมนำ้เกลือแน่ๆ มือบวม เท้าบวม บวมไปหมดเลยค่ะ
ต้องมีคนคอยดูแลด้วยตลอด ยังไม่สามารถนอน-ลุกเองจากเตียงได้ ควรมีคนพยุงพาเข้าห้องน้ำ ทานอาหารได้ตามปกติเลยค่ะ ต้องทานเพราะมียาหลังอาหาร
ข้อควรปฏิบัติหลังผ่าตัด
- อย่าให้แผลโดนน้ำ งดอาบน้ำก่อน จริงๆแล้วหมอก็ปิดแผลมาอย่างดีมีสติกเกอร์กันน้ำด้วยล่ะ แต่ก็ไม่ควรดีกว่า
- ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- งดออกกำลังกายก่อนสักพัก
- ไม่ควรยกของหนักๆในช่วงแรกหลังผ่าตัด
วันที่ 3
ผ่ามาวันเสาร์ วันนี้ก็เป็นวันจันทร์แล้ว ซึ่งคุณหมอนัดไปถอดผ้าพันแผลแต่ว่าไม่มีคนว่างพาไปเลยต้องขอเลื่อนเป็นอีกวันแทน วันนี้ก็ให้แฟนพาลุกขึ้นจากเตียงแล้วนั่งเล่นโซฟา เดินไปเดินมาในห้องได้สะดวกแล้วค่ะ ไม่ได้รู้สึกเจ็บแผลแล้ว แต่รู้สึกหนักแล้วก็ตึงๆหน้าอกค่ะ เดินเข้าห้องน้ำเองได้สบายละ แต่ก็ยังไม่สามารถนอนกับลุกขึ้นจากเตียงได้เองค่ะ วันนี้เช็ดตัวค่ะ ยังไม่ได้อาบน้ำ
วันที่ 4 วันนี้มีนัดเอาผ้าพันแผลออก ก็เช็ดตัว สระผมให้หอมๆก่อนไป ตื่นเต้นมากๆที่จะได้เห็นหน่มน้มแล้ว ฮี่ๆ และต้องเตรียม Sport Bra ไปเอง ซึ่งจ๊ะจ๋าไม่ได้ไปซื้อเอง ให้ขุ่นแฟนไปเลือกซื้อมาให้ กำชับอย่างดิบดีว่าให้บอกพนักงานเอา Sport Bra สำหรับคนที่ไปเสริมหน้าอกมา ไซส์ C, 34 ก็ได้มา 2 ตัว (คนละตัวกับในรูป ซึ่ง 2 ตัวนั้นไม่ค่อยโอเค ไม่กระชับเท่าไหร่)
คุณหมอทำการถอดผ้าพันแผลออก รู้สึกว่าอึดอัดน้อยลงค่ะ แล้วก็ดูหน้าอกปกติดี แต่มีตึงๆอยู่ จากนั้นพนักงานก็ช่วยใส่เสื้อในให้ค่ะ เพราะยังไม่ขยับแขนเองไม่ถนัด
หลังจากออกจากคลีนิคก็ไปเดินเล่นห้างต่อเลยค่ะ 5555 ไปหาซื้อชุดชั้นในใหม่แล้วก็ทานข้าวนอกบ้าน เย่!
ตอนที่อยู่คลีนิคยังไม่ได้ดูหน้าอกตัวเองเลย พอกลับมาถึงบ้านก็รีบถอดเสื้อในไปยืนดูหน้ากระจกเลย 55555
หน้าอกใหญ่ขึ้นแต่มันยังบวมและตึงมาก บอกตัวเองว่าใจเย็นนะนี่เพิ่งผ่ายังไม่ถึงสัปดาห์ ต้องรอให้เข้าที่ก่อน แล้วก็ดูตำแหน่งหัวนมซึ่งอยู่ในตำแหน่งปกติ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่กังวลเพราะเคยอ่านมาหลายรีวิว บางที่ผ่าเสร็จแล้วหัวนมชี้ผิดตำแหน่ง ตกบ้างล่ะ ชี้ออกบ้าง ฯลฯ แต่ของจ๊ะจ๋าปกติ เป็นเพราะการวัดอย่างละเอียดของคุณหมอค่ะ แล้วก็อาบน้ำเองได้ปกติแล้วนะ
วันที่ 6 คุณหมอนัดตัดไหม เนื่องจากไม่มีคนพามา จ๊ะจ๋าก็เลยขับรถมาเองเลย เกร๋ๆ
เพราะแอบไปเดินเล่นห้างคนเดียวตั้งแต่วันที่ 5 แล้วค่ะ
ขั้นตอนการตัดไหมก็ไม่มีอะไรมาก นอนเฉยๆแล้วคุณหมอกับผู้ช่วยก็เปิดแผลดูแล้วเช็ดน้ำเกลือ แล้วก็ตัดไหม แผลปิดสนิทดีไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แล้วก็ได้ยาเจลทาลบรอยแผลเป็นกับแผ่นซิลิโคนไว้แปะเพื่อให้แผลหายไวยิ่งขึ้น
ภาพ Before & After ค่ะ
จากคัพ A เป็นคัพ C
รู้สึกชีวิตเปลี่ยน ชุดชั้นในฟองน้ำหนาๆโยนทิ้งหมดเลย เย่!! ชุดหลายชุดก็ใส่ไม่ได้นะ 55555 ต้องรื้อตู้เสื้อผ้าใหม่เลยค่ะ
รู้สึกแต่งตัวแล้วสวยขึ้น ชีวิตดี เป็นสตรีมีหน้าอก หมดปัญหาอกไข่ดาว จอแบน
ไม่ได้รู้สึกเจ็บอย่างที่กลัว ไม่ต้องพักฟื้นนานอย่างที่คิด รู้งี้ทำไปนานแล้วค่ะ สาวๆที่กำลังจะทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกจ๊ะจ๋าแนะนำว่าถ้าเงินพร้อมแล้วก็ทำเลยค่ะ ลังเลแล้วเดี๋ยวจะอดทำ ต้องเลือกคลีนิคดีๆนะคะ
ขอบคุณทาง Dream Clinic และคุณหมอทรงยศมากๆเลยค่ะที่ทำให้จ๊ะจ๋าสวยขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น
ดูรายละเอียดของคลีนิคเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/Clinicdream
เบอร์โทร : (+66) 02-693-9911