สวัสดีค่ะทุกคน บล็อคนี้จ๊ะจ๋ามีรองพื้นมารีวิวมาให้ชมกันอีกแล้วค่ะ รองพื้นขวดนี้เนี่ยแพงที่สุดที่จ๊ะจ๋าเคยใช้ในตอนนี้เลยค่ะ เป็นรองพื้นอีกขวดของ Sisley ค่ะ จ๊ะจ๋ามีรองพื้นของซิสเล่ย์เค้าอยู่แล้วหนึ่งขวด (Sisley Phyto Teint Eclat fluid oil free) แต่สูตรนั้นเป็นสูตรที่แมตต์ ติดทนนานสำหรับผิวหน้ามันโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นรองพื้นที่ดีมากกกกกก แต่ว่าหน้าช่วงนี้ไม่ได้มันหนักขนาดนั้นแล้ว เลยเปลี่ยนมาลองใช้อีกสูตรของซิสเล่ย์ดูค่ะ และขวดนี้ก็ราคาแรงใช้ได้เลยค่ะ เผื่อเป็นอีกหนึ่งการช่วยตัดสินใจว่าจะควักเงินในกระเป๋าซื้อรองพื้นขวดนี้ดีหรือไม่ ตามไปดูกันเลยค่ะ
Sisley Sisleya Le Teint (เฉดสี 0.R Vanilla)
ขนาด 30 ml. ราคา 5,200 บาท
จ๊ะจ๋าคิดว่าสาวๆหลายๆคนน่าจะรู้จักแบรนด์ Sisley (ซิสเล่ย์) กันดีอยู่แล้ว เพราะเค้าเป็นแบรนด์ที่ดังในเรื่องสกินแคร์ โดยเฉพาะเรื่องชะลอริ้วรอย, ลดเลือนริ้วรอยและผิวสวยสุขภาพดี นอกจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าแล้วนั้น เค้าก็ยังมีเครื่องสำอางด้วยเช่นกัน รองพื้นรุ่น Sisleys Le Teint เป็นรองพื้นที่ล้ำมาก ไม่ใช่แค่รองพื้นที่ช่วยปกปิดให้ผิวเรียบเนียนเท่านั้น แต่เป็นสกินแคร์ในตัวอีกด้วย
เหมือนซื้อ 1 แถม 1 เลยค่ะ ซื้อรองพื้นแต่ได้สกินแคร์มาในตัว รองพื้นขวดนี้เค้าบอกว่าเป็นรองพื้นบำรุงผิวพร้อมชะลอริ้วรอยแห่งวัย เพื่อการแต่งผิวเนียนในใสแบบอุดมคติ เปล่งประกาย เนียนนุ่ม เบาสบายผิวยาวนาน เอิบอิ่ม ดูอ่อนเยาว์ดุจอยู่เหนือกาลเวลา
ซิสเล่ย์ ค้นพบนวัตกรรมผสานแร่ไมก้าคุณภาพ 2 ชนิดที่ช่วยเนรมิตผิวเปล่งประกายละมุนละไม ดูอ่อนเยาว์ถึงขีดสุด
– Crystal Mica : ไมก้าประกายคริสตัล กระจายมิติแสงที่ตกกระทบผิวให้ดูเรื่อเรืองจรัสใส
– Healthy Glow Mica : ผิวอมชมพู นวลเนียนดูสุขภาพดี
ส่วนผสมที่เด่นๆมีดังนี้
– คุณค่าสกัดจาก Persian Arcacia : ฟื้นบำรุงผิวให้ดูมีชีวิตชีวา ลดเลือนสัญญาณอ่อนล้าให้ผิวดูสดใส
–คุณค่าสกัดจาก Chlorella : อุดมวิตามิน แร่ธาตุและกรดอะมิโนแอซิต ที่จำเป็นในการสร้างดุลยภาพของระบบเผาผลาญในระดับเซลล์
–คุณค่าสกัดจาก Red Wine : ช่วยให้ผิวดูเปล่งประกาย กระจ่างใสยิ่งขึ้น
– เจลพรางผิวสกัดจาก Hectorite : เติมเต็มร่องผิว ลดเลือนจุดบกพร่อง ทำให้ผิวดูลื่นดุจดั่งกำมะหยี่
– คุณค่าสกัดจาก Soy peptide และ Adenosine stimulate collagen synthesis : ช่วยลดการปรากฎชัดของริ้วรอย เสริมบำรุงผิวให้ดูกระชับอ่อนเยาว์
– คุณค่าสกัดจาก White Willow : แอนตี้ออ็อกซิแดนท์ เสริมบำรุงคอลลาเจนและอิลาสตินให้คงคุณภาพพร้อมผสานคุณค่าวิตามินอี อะซิเทต ในการพิทักษ์ผิว
– Cherry Blossom : เติมความชุ่มชื่น ความนุ่มละมุน เสริมสร้างปราการ่ปกป้องผิว
– Wheat Sugar : เก็บกักรักษาน้ำให้กับผิว ทั้งในระยะสั้นและยาวอย่างสมดุล ผิวปลั่งฟู เบาสบายและชุ่มชื่น
Credit : http://www.beautyprofessor.net/2016/09/thoughts-and-swatches-jouer-fall-2016.html
มีทั้งหมด 8 เฉดสีด้วยกัน โดยแบ่งเฉดสีตามอันเดอร์โทนผิว
รหัส “R” เป็นโทนชมพู
รหัส “B” เป็นโทนสีเบจ
ซึ่งการดูว่าผิวเรานั้นอันเดอร์โทนไหนก็สามารถทำได้หลายวิธีอยู่นะคะ อย่างเช่นหงายข้อมือดูเส้นในที่แสงสว่างธรรมชาติ ถ้าเส้นเลือดออกสีเขียวแสดงว่าโทนสีเบจ (warm tone) แต่ถ้าหงายแล้วเห็นเส้นเลือดเป็นสีน้ำเงินหรือสีม่วงแสดงว่าโทนสีชมพูค่ะ (Cool tone) ซึ่งข้อมือจ๊ะจ๋ามีทั้งม่วงและเขียวก็จะอยู่กลางๆ (Neutral)
รองพื้นรุ่น Sisley Phyto Teint Eclat จ๊ะจ๋าใช้เบอร์ +1 nude เป็นโทนเหลืองค่ะ แต่ Sisleya Le Teint จ๊ะจ๋าใช้เบอร์ 0.R Vanilla ซึ่งอยู่ในโทนชมพูค่ะ เพราะตอนที่ไปลองที่เคาน์เตอร์ รู้สึกว่าสีนี้เข้ากับผิวหน้ามากกว่า ทาแล้วไม่หมอง
ขวดรองพื้นเป็นหัวปั๊มสีทอง ฝาด้านบนก็เป็นสีขาวลายสีทองดูไฮมากค่ะ เลิฟ
เนื้อรองพื้นมีความเข้มข้นแต่ก็เหลวอยู่นะ แต่ก็ไม่เหลวถึงขั้นที่ไหลฟืดลงจากหลังมือเลย
สภาพผิวหน้าจ๊ะจ๋าช่วงนี้ค่อนข้างแย่ค่ะ แพ้ทั้งน้ำและสเปรย์ใส่ผม มีสิวขึ้นและรอยสิวทิ้งไว้เพียบเลย
ซ้ายคือหน้าสดแบบไม่ทาไพร์เมอร์หรือเบสใดๆนะคะ จะเห็นว่ามีรอยแดงค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
ส่วนด้านขวาคือหลังจากที่ลงรองพื้น(ด้วยนิ้วมือ)ไปแล้วแค่หนึ่งชั้นแบบไม่หนา สีผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น รอยแดงดูจางลงแต่ก็ไม่ได้ปกปิดได้หมดนะคะ ได้ฟีลเหมือนถ่ายรูปแล้วใส่ฟิลเตอร์เลเวลน้อยๆอ่ะค่ะ ให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นแต่ไม่ได้หลอกมาก
ถ้าคนที่มีผิวดีอยู่แล้ว ไม่มีสิว ไม่มีรอยสิวน่าจะรักมากๆเลยค่ะ เพราะเป็นรองพื้นที่ทาแล้วผิวดูสวยเปล่งปลั่งแบบไม่หนาโบ๊ะ ที่สำคัญคือสบายผิวสุดๆ
รูปซ้ายคือหลังจากลงแป้งฝุ่นและแต่งหน้าเสร็จแล้วทันที รูปขวาคือผ่านไปประมาณ 6 ชั่วโมงในสภาพอากาศอบอ้าว (เที่ยวริมทะเล)
ฝั่งซ้ายยังคงดูผิวแมตต์ไม่มันเลยเพราะจ๊ะจ๋าใช้แป้งฝุ่นที่ควบคุมความมันด้วย ส่วนทางด้านขวาเนี่ยผ่านการซับหน้าด้วยกระดาษทิชชู่มาแล้วหนึ่งรอบแต่ไม่ได้มีการเติมแป้งเติมหน้าเพิ่มแต่อย่างใด ขนาดลิปยังลืมเติมเลยเนี่ย เพิ่งมาเห็นในรูป ฮ่าๆ จะเห็นได้ว่าผิวหน้ามีความโกลวๆหน่อยแต่รองพื้นไม่ได้หลุดลอกมาก อาจจะมีตรงร่องจมูกนิดหน่อยที่หลุดๆเพราะวันนั้นน้ำมูกไหลตลอดเลยค่ะ ใช้ทิชชู่เช็ดจนแดงไปหมด ส่วนเรื่องการปกปิดรูขุมขนอาจจะปิดได้ไม่หมดเพราะนี่ไม่ใช่รองพื้นแบบ full coverage เนอะ ได้ขนาดนี้ถือว่าดีมากแล้วค่ะ
ให้คะแนนส่วนตัว
การปกปิด 3/5
ความสบายผิว 5/5
ความหมอง 5/5 (ไม่ดร็อประหว่างวันเลย)
คุมมัน 3/5
สรุปคือเป็นรองพื้นตามที่เค้าเคลมมาเลยค่ะ เบาสบายผิวสุดๆ ไม่รู้สึกเลยว่าทารองพื้นลงผิวหน้า รักมากในส่วนตรงนี้ กระจายแสงดี ผิวดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี (จะดีกว่านี้ถ้าหน้าไม่มีรอยสิว T^T) สีผิวไม่ดร็อประหว่างวันเลย แม้ผิวจะมัน แค่ทิชชู่ซับก็เอาอยู่ค่ะ ผิวลื่นดูเนียนเหมือนใส่ฟิลเตอร์เข้าไปอ่ะค่ะ ถ่ายรูปออกมาหน้าเนียนเลย ส่วนเรื่องริ้วรอยยังไม่สามารถบอกได้จริงๆค่ะ เพราะมันต้องใช้ไปยาวๆ แต่อย่างน้อยก็รู้สึกดีว่าไม่ใช่แค่การแต่งหน้าธรรมดา แต่เราได้ลงการบำรุงผิวลงไปด้วย ส่วนเรื่องราคานั้นก็ถือว่าสูงค่ะ ถ้าชอบในความหรูหราไฮโซ ความดีงามผิวสวยนี้ก็จัดเลยค่ะ รักแน่นอน