สวัสดีช่วงหน้าฝนค่ะ แม้จะเบื่อๆเซ็งๆกับฝนตก แต่ก็ไม่วายที่จะหาที่เที่ยวอยู่เสมอ ถึงฝนจะตก ฟ้าจะไม่สดใส แต่ก็ไม่มีอะไรมาหยุดทริปของเราได้ ฮ่าๆ
วันจันทร์-ศุกร์ก็ต้องตื่นเช้าเผชิญกับรถติด นั่งติดแหง็กอยู่ในรถวันนึง 3 ชั่วโมง วันเสาร์-อาทิตย์ก็จะโหยหาที่พักผ่อนนอกกรุง แต่ก็ไม่อยากจะไปไหนไกล เดี๋ยวเหนื่อยกว่าเดิมอีก
สุดท้ายก็มาจบที่พัทยา (อีกแล้วค่ะ)
ทริปนี้จ๊ะจ๋าจะไม่ไปไหนเยอะ ไม่ทำอะไรมาก เน้นพักผ่อน ชาร์จแบตยาวๆเลย จองทำสปาไว้ที่ Tea tree spa, Holiday Inn Pattaya เวลาบ่ายโมงตรง
เนื่องจากจ๊ะจ๋าไปนอนคอนโดแฟนที่บางใหญ่ (นนทบุรี) ซึ่งไกลกว่าระยะทางจากคอนโดจ๊ะจ๋าไปพัทยาอยู่เยอะเลยทีเดียว เราก็เลยตื่นกันตั้งแต่เช้าเลยค่ะ ขับรถออกมาตอน 8 โมงครึ่ง กะว่าจะไปทานมื้อเช้าที่พัทยาเลย แต่ว่า 8 โมงที่ออกจากบางใหญ่นั้น กว่าจะถึงเส้นมอเตอร์เวย์ก็สายแล้ว 9 โมงนิดๆแล้วค่ะ รถเยอะพอสมควรเลย คงจะมีหลายคนที่คิดเหมือนกันไม่น้อยว่าถ้าออกเช้ารถจะไม่ค่อยติด ก็เลยทำให้ไปถึงพัทยาประมาณ 10 โมงครึ่งค่ะ กระเพาะประท้วงหนักมาก
เริ่มต้นอาหารมื้อแรกของวันด้วยครัวซองท์สุดอร่อยที่ร้าน Dripoly ดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่…จูงมือแฟนไปทานมื้อเช้าพร้อมโพสท่าสวยๆ คาเฟ่คลุมโทน “DRIPOLY” พัทยา
จ๊ะจ๋าสั่ง Eggs Benedict ( 220 บาท ) และคุณแฟนสั่ง Croissant Ham Cheese ( 120 บาท )
หลังจากอิ่มกับมื้อเช้าแล้ว ก็ยังมีเวลาเหลือ แฟนก็ให้เลือกว่าอยากจะไปร้านขนมที่ไหนต่อมั้ย นี่ก็ตาลุกวาวเลย รู้สึกโชคดีที่มีแฟนชอบทานขนมเหมือนกัน แล้วก็ตามใจ ให้เลือกร้านตลอดเลย ขอบคุณนะคะ
จ๊ะจ๋าก็เลยเลือกมาร้าน The Sweeteners ค่ะ เป็นจากเว็ปแล้วน่าอร่อยดี
สั่ง Banoffee Toast มา 1 จาน ทานคู่กับชาเขียวร้อนๆ
แต่ค่อนข้างน่าผิดหวังค่ะ โทสไม่กรอบเลย ยิ่งตรงขอบๆนี่เหนียวและแข็งมากค่ะ ตรงกลางพอจะมีกรอบๆบ้าง แต่ไม่ครันช์ชี่ รู้สึกว่าโทสของที่นี่จะเป็นแค่การนำขนมปังชิ้นใหญ่มาหั่นขอบออกให้จากตัวตรงกลาง แล้วก็โปะด้วยไอศครีม บราวนี่ กล้วยและวิปปิ้งครีม เหมือนจะไม่มีการทาเนยอะไรเลย
เพราะตัวขนมปังนั้นแห้งๆไม่มีรสชาติเนย ไม่หอมหวานเลย จานนี้ทำเอาผิดหวังมาก ทานไปนิดเดียวก็วางช้อนลงเลยค่ะ ไม่คุ้มอ้วน
เมื่อทานเสร็จแล้วก็ขับรถมุ่งหน้าไปพัทยาเหนือ ขับไปเส้นพัทยาสาย 1 จากวงเวียนแล้วขับตรงลงมาหาดก็จะเจอทางเข้าโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ พัทยา อยู่ทางซ้ายมือค่ะ
จอดรถที่ลานจอดรถใต้ดินเสร็จแล้วก็เดินขึ้นมาที่ล็อบบี้ กดลิฟต์ไปที่ชั้น 5 เดินออกมาก็จะเจอ Tea Tree Spa เลยค่ะ
ดูรีวิวสปา…คลิกที่นี่
พอทำสปาเสร็จแล้วก็ลงไปที่ล็อบบี้เพื่อเช็คอินห้องพักค่ะ บริเวณล็อบบี้กว้างขวาง เพดานสูง ถัดมาข้างๆก็จะเป็นคาเฟ่ค่ะ คือในส่วนนี้นักท่องเที่ยวเยอะเลยทีเดียว
วันเสาร์-อาทิตย์ในพัทยามักจะครึกครื้น ไม่แปลกใจเลยที่ห้องพักโรงแรมจะเต็มร้อยเปอร์เซ็น
พักห้อง Ocean View Room 1 คืน
ห้องกว้าง 33 ตร.ม. เห็นวิวทะเล
น้ำเปล่า ชา กาแฟ ฟรีค่ะ
ระเบียง Sea view
ห้องน้ำไม่มีอ่างนะคะ ไม่มีสายฉีดก้นด้วย
แดดเริ่มอ่อนแล้วก็เดินไปที่ตึกด้านหลัง ซึ่งเป็นตึกใหม่ค่ะ ด้านบนมีรูฟท็อปบาร์ด้วย เราจะแวะไปดริ๊งชมวิวอาทิตย์ตกกันก่อนแล้วค่อยดินเนอร์ค่ะ ที่ Holiday Inn Pattaya มีสระว่ายน้ำทั้งหมด 4 สระค่ะ (รวมทั้งสองตึก) แขกที่มาพักสามารถเล่นน้ำได้ทุกสระเลย ที่ตึกหน้าจะมีสระสำหรับเด็กโดยเฉพาะด้วยนะ
ห้องนี้จะเป็น Executive Club ค่ะ คือทุกห้องที่จองมาสามารถอัพเกรดจ่ายเพิ่ม 1,500++ บาท เพื่อจะได้เข้ามาใช้บริการในส่วนนี้ค่ะ
ไม่ใช่แค่ใช้บริการในห้องนี้เท่านั้น ยังมีสิทธิประโยชน์อีกเพียบ
- บริการเช็คอิน และเช็คเอาท์แบบส่วนตัว
- อาหารเช้าบนชั้นสูงสุดตั้งแต่เวลา 5.30 น. – ถึง 10.30 น.
- บริการชา กาแฟ เครื่องดื่ม โฮมเมทคุ๊กกี้ และผลไม้ตลอดวัน
- บริการเครื่องดื่มยามเย็นและคานาเป้ ตั้งแต่เวลา 18:00 น. – 20:00 น.
- ผลไม้ต้อนรับในขณะเข้าพัก
- หนังสือพิมพ์รายวันฟรีทุกวัน
- ฟรีอินเทอร์เน็ทความเร็วสูงในห้องพัก และเอ็กเซ็กคิวทีฟคลับ
- บริการใช้ห้องประชุมย่อยที่เอ็กเซ็กคิวทีฟคลับฟรี 2 ชม.(ขึ้นอยู่กับการว่างของห้อง)
- ส่วนลด 10% อาหารและเครื่องดื่ม ส่วนลด 20% เฉพาะเมนูปกติ ณ ทีทรีสปา
- บริการอาหารกลางวัน และอาหารค่ำระหว่างวัน (มีค่าใช้จ่าย)
- บริการเช็คเอาท์ล่วงเวลาได้ถึง 14.00 น. (ขึ้นอยู่กับการว่างของห้องพัก
จะมีคานาเป้บริการช่วง 6 โมงถึง 2 ทุ่มด้วย เครื่องดื่มแอลกอฮอลก็รวมอยู่ด้วยนะ ของทานเล่นที่ว่า เอาจริงๆก็อิ่มนะจะว่าไป
เดินออกจากห้อง Executive Club ก็เป็น Rooftop Bar ค่ะ ในส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นแขกที่มาพักเท่านั้นที่สามารถใช้บริการได้ แขกข้างนอกก็เข้าได้ค่ะ
วิวก็จะประมาณนี้
นี่ดีนะที่รีบมาก่อน 6 โมงเย็น คนยังไม่เยอะมาก แต่ก็มีหลายโต๊ะที่วางป้ายจองไว้แล้ว จ๊ะจ๋ามาพัทยาบ่อยมาก แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีรูฟท็อปบาร์ที่ฮอลิเดย์อินน์ด้วย คือดีเลย มองเห็นวิวทะเลด้วย นี่ก็หยิบขนมจากข้างใน Executive Club มานั่งทานด้านนอก
มี Happy Hour ช่วง 6 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่มด้วย ซื้อ 1 แถม 1!! ปกติแล้วราคาเครื่องดื่มก็ไม่แพง แล้วนี่ได้ 1 แถม 1 อีก คุ้มค่ามากค่ะ
2 แก้วนี้เป็น Passionfruit Mojito & Lychee Mojito ค่ะ อร่อยสดชื่นนนน
พออาทิตย์ตกก็เริ่มรู้สึกหิวละ (ที่อยู่เต็มโต๊ะนั่นยังไม่พอรึไง #มองบนใส่ตัวเอง)
เลยลงลิฟต์มาข้างล่าง แล้วเดินไปที่ห้องอาหาร Havana Bar & Terrazzo Restaurant ค่ะ ร้านนี้จะมีทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ ตอนที่ไปก็จะเป็นช่วงที่มีดนตรีสดแบบมีนักร้องคนเดียว ร้องและเล่นกีต้าร์เองค่ะ
จ๊ะจ๋าเลือกนั่งด้านในเนอะ แอร์เย็นฉ่ำ สบายดี
Kamikaze Madness (ราคา 199++ บาท)
เห็นเมนูโปรโมชั่นดูดีก็เลยจัดมาทานเล่นกันก่อนค่ะ นาโช่เสิร์ฟพร้อมกับซัลซ่าที่อร่อยมาก มีความเผ็ดนิดๆ ทานเล่นเพลินๆเลยค่ะ
แก้วสวยๆ 3 แก้วนั้นก็รสชาติดี (Blue, strawberry, classic) มีความเข้มพอตัวเลย อู้วววว จ๊ะจ๋าชอบแก้วสีแดงที่สุดค่ะ เป็นสตรอเบอร์รี่ รู้สึกว่ามีเนื้อสตรอเบอร์รี่อยู่ด้วย คือเลิฟเลย
ไหนๆก็จัดค็อกเทลมาตลอดละ สั่งอีกแก้วเลยละกัน แก้วใหญ่สุดเลย ฮ่าๆ Blue Heaven (ราคา 295++ บาท)
แก้วนี้ดื่มง่ายนะคะ คือน้ำสีฟ้าๆก็เป็นกามิกาเซ่มีแอลกอฮอลอยู่แล้ว ยังมีแอปเปิ้ลไซเดอร์เพิ่มแอลกอฮอลเข้าไปอีก ถ้าดื่มหมดนี่ก็ไม่ธรรมดาเลย
ด้วยความหวานอร่อย สดชื่น ดื่มง่าย ทำให้จ๊ะจ๋าดื่มเข้าไปถึงครึ่งแก้วคนเดียวเลย
ขนมปังทานเล่นๆก่อนค่ะ ร้อนๆอร่อยดี
ของแฟนดื่มนี่
Jar of prawn (ราคา 390++ บาท)
สลัดกุ้งเสิร์ฟมาในโหลใสๆ แยกกับน้ำสลัด ดูดีเลยทีเดียว แล้วก็มีจานใหญ่มาให้ค่ะ เอาไว้ให้เราคลุกเคล้าในจาน
จานนี้เป็นสลัดที่อร่อยเลย ไม่เลี่ยน ออกแนวฟิวชั่นนิดๆ เพราะมีไข่แซลมอนกรุบๆด้วย
Bouchot Mussel (ราคา 490++ บาท)
เป็นโปรโมชั่นช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายนนี้ค่ะ หอยแมลงภู่ตัวน้อยๆน่ารักน่าเอ็นดูมาก นี่ไม่ใช่ลูกหอยนะคะ แต่เป็นหอยแมลงภู่ฝรั่งเศส ไซส์เค้าจะตัวเล็กๆแบบนี้ค่ะ
เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสีส้มแซ่บๆ ในถ้วยนี้น่าจะมีหอยมากถึง 50 ตัวได้ค่ะ ทานเล่นๆเพลินๆไป แนะนำว่าให้แกะทีเดียวหลายๆตัวแล้วตักเข้าปาก จะได้ฟินนนน
Chicken Parmigiana (ราคา 380++ บาท) Recommended
อกไก่ปรุงรส ชุบเกล็ดขนมปังทอดราดด้วย Napoli ซอสสูตรพิเศษ ราดด้วยชีส
คือเด็ดมากกกกก จ๊ะจ๋าชอบเมนูนี้ที่สุดในมื้อนี้ค่ะ อกไก่ไม่มีความแข็งกระด้างเลย หมักออกมาได้นุ่มละมุนลิ้น เกล็ดขนมปังก็กรอบไม่บาดปาก
ซอสจะออกหวานๆหน่อย มีชีสที่เพิ่มความมันๆเค็มๆ คือทุกอย่างเพอร์เฟ็คเลย ชอบมาก ยิ่งกว่านั้นคือชิพที่เสิร์ฟมาด้วยก็กรอบนอกนุ่มใน ไม่เหี่ยวเลย แม้จะตั้งโดนแอร์ไว้นานก็ยังกรอบ
Porto Fino pizza (ราคา 279++ บาท )
เป็นพิซซ่าหน้าเห็ด กุ้ง เบคอน พิซซ่าเค้ามีโปรโมชั่นด้วยนะ ลด 50% ทุกวัน 15.00 -17.00 น.
คือถาดนี้ใหญ่มาก แป้งบางกรอบ ชีสยืดดดด มื้อนี้ขอลืมการกลัวอ้วนแล้วกันนะ ของอร่อยอยู่ตรงหน้าแล้ว
มาเที่ยวเราก็จะพักการไดเอตไปก่อน ฮ่าๆ
เช้านี้ตื่นมาแบบสดใส อาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ลงไปทานอาหารเช้าประมาณเกือบ 10 โมงเลยค่ะ ข้างๆห้องอาหารก็จะมี Kids club ด้วย เด็กๆน่าจะชอบ
ในส่วนของห้องอาหารตอนเช้านั้น…คนเยอะมากกกกก ทั้งคนไทยและต่างชาติค่ะ
อาหารมีให้เลือกหลากหลายเลย
จ๊ะจ๋าทาน Poached eggs กับไส้กรอก แฟนก็ทานแบบเดียวกันแล้วต่อด้วยก๋วยเตี๋ยว โดยรวมแล้วก็รสชาติโอเค
ส่วน Pastry จ๊ะจ๋าว่ายังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ แต่โดนัทหน้าซินนามอนอร่อยนะ
อิ่มจากมื้อเช้าแล้วก็ขึ้นห้องไปเก็บกระเป๋า เช็คเอาท์กลับกรุงเทพค่ะ เสาร์-อาทิตย์นี้ได้พักผ่อนเต็มอิ่ม สบายตัวด้วยการทำสปา อิ่มท้องกับอาหารอร่อยๆ แค่นี้ก็โอเคละ ชาร์จแบตพร้อมทำงานสำหรับวันจันทร์ 🙂
