มาต่อกันที่วันสุดท้ายของทริปนี้ เมื่อคืนกลับดึก แต่เราก็ยังคงตื่นเช้า ( 8 โมงนี่สายแล้วป่ะ ) มาทานอาหารเช้า
อาหารเช้าวันนี้จ๊ะจ๋าแพลนไว้ว่าจะไปใกล้ๆที่พัก สามารถเดินไปได้เลย ย่าน Tiong Bahru (ติ-ยง-บา-รู แต่อ่านไวๆก็ จง-บา-รู)
ในทริปนี้เราสองคนไม่เน้นนอนหรู เลือกโรงแรมที่นอนได้ก็โอเคแล้ว เพราะว่าใช้เวลาในโรงแรมแค่หลับและอาบน้ำแค่นั้นเลยจริงๆ กลางคืนก็กลับห้องตี 3 ตี 4 ละ ตื่น 8 โมงอีก
จ๊ะจ๋าเลือกจองห้องพักจากเว็ปไซต์ของ Traveloka ค่ะ เพราะเห็นว่ามีโปรลดราคาอยู่พอดี
พัก 2 คืน จ่ายไปประมาณ 3 พันต้นๆเท่านั้นเอง พอหารกับเพื่อนแล้วก็ตกคนละพันกว่าบาท ประหยัดไปอี๊กกกก
แถวนี้ก็จะไม่คึกคักมาก เป็นย่านที่พักอาศัย
ถึงแล้ววว ร้าน Tiong Bahru Bakery เป็นร้านที่ค่อนค้างดังอีกเช่นกัน
คนแน่นร้านเลย แต่ก็รอไม่นานนะคะ ไม่ถึง 5 นาทีก็ได้โต๊ะละ เค้าก็จะมีแยก 2 เคาน์เตอร์ สำหรับสั่งเครื่องดื่มอย่างเดียวและสำหรับสั่งขนมและเครื่องดื่ม
ระหว่างที่ลูกค้าคนก่อนหน้ากำลังเลือก เราก็ต้องใช้สายตากวาดแบบไวๆ แล้วเลือกว่าจะทานอะไร
เบเกอรี่เยอะมาก ทั้งคาว-หวานเลย
ขนมเค้กก็น่าทาน อยากจะทานไปหมดเลย งืออออ
เลือกให้ไว สั่งแล้วจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์เลย
น้ำเปล่าฟรี มาเห็นทีหลัง สั่งซื้อน้ำ Evian ไปแล้ว โอเคนะ
Smoke Salmon Bun SGD9 ของจ๊ะจ๋า
หน้าตาดูดี อร่อยเลย แต่ขนมปังแอบเหนียวนิดๆ อาจจะเป็นเพราะเย็นๆ มื้อเช้าจ๊ะจ๋าจ่ายไป SGD12.62 ส่วนเพื่อนก็ไปซื้อต่างหาก ถือว่าราคาก็เหมือนกับทาน au bon pain บ้านเรา อิอิ
คือเพื่อนทานหวานแต่เช้าเลย แอบงงเบาๆ ยอมใจ (SGD4)
แล้วเราตั้งใจจะเดินหา Street art / art wall อันโด่งดัง ก็ต้องเดินตากแดดร้อนๆเลยจ้า แสบผิวไม่เบาอ่ะบอกเลย
ในที่สุดก็เจอ เดินแบบมั่วมากๆ กำแพงนี้สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวสิงคโปร์สมัยก่อน
ถ้าอยากรู้ว่ามีอยู่ตรงไหนบ้างก็ลองกูเกิ้ลดูค่ะ
ตอนแรกท้อละ แต่เดินไปเดินมาก็เจออีกที่ เย่!
ทริปนี้เราขึ้นรถเมล์กันตั้ง 1 ครั้งแน่ะ เรียกแต่ Uber กับ Grab ตลอดเลย ฮ่าๆ
ตั้งใจจะมาทานลักซาที่ร้าน Roxy Laksa พอมาถึง…ผ่าง!!!
ปิดหมดเลยจ้าาาา ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์อาหารในมหาลัยค่ะ มีหลายร้านเลยทีเดียว แต่ปิดหมดเลย เพราะวันนี้เป็นวันแรงงาน เศร้าใจ ไปไม่ดูตาม้าตาเรือ T^T
นั่ง MRT มาลง Orchard นี่ก็นึกว่าทริปนี้จะไม่ได้มาออชาร์ดแล้วนะเนี่ย สุดท้ายก็ต้องมา
จากลักซาก็กลายเป็นสลัดและสปาเกตตี้ อาหารโลคอลเหลือเกิ๊นนนนนนนน
มาสิงคโปร์กี่ครั้งก็ไม่พลาด Curry-O ของ Old Chang Kee ชอบมากอ่ะบอกเลย
สำหรับคนที่ไม่เคยทาน Curry-O เนี่ยก็คล้ายๆกะหรี่ปั๊บค่ะ แต่ข้างในจะเป็นไส้ Chilly crab มีไข่ด้วย แล้วแป้งก็กร๊อบกรอบ ทานเพลิน อ้วนพีเลย
ทานเสร็จแล้วเราก็ไปเดินเล่นกันที่ Hajilane ค่ะ ย่านนี้ก็นักท่องเที่ยวเยอะ ฝรั่งเยอะอยู่
Kampong Glam ย่านนี้ร้านอาหารตุรกีเยอะมาก
หลังจากเดินเล่นไปสักพัก คือเหงื่อท่วมแล้ว ต้องการแอร์แบบด่วนมาก ร้านที่ลิสต์ไว้ก็คือร้าน Brother Bird
ร้านละแวกนี้ไม่ค่อยติดแอร์ ร้านนี้ก็เป็นร้านที่คนนิยมและมีแอร์ ไม่แปลกถ้าคนจะเต็มร้าน แล้วเราก็เลยต้องนั่งรอด้านนอกก่อน รอว่างก็ย้ายเข้าด้านใน
บรรยากาศร้านตกแต่งสไตล์ Loft เรียบๆง่ายๆ ปูนเปลือย มีบันไดขึ้นชั้น 2 ด้วยนะ แต่จ๊ะจ๋าได้ชั้นล่างก็เลยไม่ขึ้นไปข้างบน
ร้านนี้ดังซอฟท์เสิร์ฟ จ๊ะจ๋าสั่งสมอร์วาฟเฟิลช็อคโกแลตกับซอฟท์เสิร์ฟมาทานด้วยกันกับเพื่อนค่ะ
จำชื่อไม่ได้ว่าชื่อเมนูอะไร คร่าวๆก็ตามนั้นละกัน
วาฟเฟิลช็อคโกแลต มีมาร์ชเมลโล่อยู่บนวาฟเฟิล 2 ชิ้น ราดซอสช็อคโกแลต โรยด้วยคริสปี้ซัมธิง
ท็อปด้วยซอฟท์เสิร์ฟ วาฟเฟิลมีความดีงาม กรอบนอกนุ่มใน รสชาติช็อคโกแลตเข้มข้น มาร์ชเมลโล่ยืดๆหวานๆ ทานคู่กับซอฟท์เสิร์ฟเย็นๆคือฟินเลย อย่ามัวถ่ายรูปเพลินนะ เพราะละลายไวมาก
อิ่มแล้วก็เรียกอูเบอร์ไป Henderson wave ต่อ ต้องเดินบันไดขึ้นมาหลายก้าวเลยค่ะ เดินขึ้นเหนื่อยเลยค่ะ
นี่ล่ะที่ทุกคนมา คือมาถ่ายรูปด้านบนกับโค้งๆนี่
เหนื่อยแล้วก็หาที่นั่งพักเล่นๆกันก่อน
แล้วก็ขอให้คนช่วยถ่ายรูปคู่ให้หน่อย บังเอิ๊ญบังเอิญ ผู้ชายคนนั้นเป็นคนไทยค่ะ มาเที่ยวคนเดียว
นี่ก็เลยช่วยกันผลัดกันถ่ายรูปให้ ฮ่าๆ
หลังจากถ่ายรูปเล่นกันจนพอใจแล้วก็เป็นเวลา 6 โมงเย็น ก็เรียกอูเบอร์กลับโรงแรมค่ะ ไปเอากระเป๋าแล้วไปสนามบินกัน
ระหว่างรอขึ้นเครื่องก็หาอะไรทานไปก่อน ( 3 ทุ่ม )
เดินไปเดินมาก็เจอ Old Chang Kee อีก จะรออะไรล่ะค้าบบบ ซื้อมาทานสิ ฮ่าๆ
สรุปทริปนี้
– นั่งแต่ Uber และ Grab ซึ่งที่สิงคโปร์ดีมากตรงที่มีเรียกแบบแชร์ได้ด้วย คือเราสามารถแชร์รถไปกับคนอื่นที่ผ่านเส้นทางเดียวกันได้ ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลงไปอีก เที่ยวละประมาณ SGD8-9 เท่านั้น
– ไปหน้าร้อน-ฝน โชคดีมากที่ไม่เจอฝนตกหนักเวลาไปเที่ยวเลย ท้องฟ้าเป็นใจ
– ทริปนี้เน้นหาร้านกิน ร้านดื่ม ไม่เน้นช็อปปิ้ง
– ช้อปปิ้งในคิงเพาว์เวอร์แพงกว่าค่าตั๋วไปกลับ+ห้องพัก
– แฮปปี้