***เสียดายที่บล็อคลดไซส์ภาพทำให้รูปดูไม่ชัดเท่าที่ควร ทั้งๆที่รูปจริงชัดและสวยกว่ามาก***
สวัสดีค่ะ บล็อคนี้จ๊ะจ๋ามีรีวิวที่พักมาฝากกันค่ะ จ๊ะจ๋าไปหัวหิน(อีกแล้ว)มาช่วงวันที่ 24-27 ตุลาคม 2559
จุดประสงค์ที่ไปคือเห็นร้านขนมเปิดใหม่น่าทานมาก อดใจไม่ไหวก็เลยมาซะหน่อย ทริปนี้จ๊ะจ๋าพักที่ Radisson Blu Resort Hua Hin ค่ะ
โรงแรมเพิ่งเปิดใหม่เลยค่ะ เปิดไปเมื่อต้นเดือนตุลาเอง จ๊ะจ๋าถือว่าเป็นลูกค้าแรกๆเลยนะเนี่ย ดีใจจัง
ขับรถมาจากกรุงเทพ วิ่งเส้นเพรชเกษม ขับมาทางชะอำมุ่งหน้าเข้าหัวหิน จะเจอป้ายโรงแรมทางซ้ายมือค่ะ ทางเข้าเดียวกันกับเชอราตันเลย ทางเข้าโรงแรมจะตรงข้าม FN Outlet เลยค่ะ สังเกตุได้ไม่ยากเลย
ขับรถเข้ามาจอดที่รถกอล์ฟจอดอยู่ได้เลย แล้วเอาของลงเพื่อเช็คอิน จากนั้นก็ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถค่ะ เดี๋ยวพนักงานจะขับรถไปรับมาส่งที่นี่อีกที
โรงแรมกว้างขวางดูโอ่อ่าและสีสันสวยงามมาก
มีนกคุ้มเต็มโรงแรมเลยค่ะ เป็นมาสค็อตของที่นี่เลย
พนักงานเดินไปรับตั้งแต่เดินเข้ามาจนถึงตรงนี้เลยค่ะ บริเวณล็อบบี้เพดานสูงโปร่ง พื้นที่ก็กว้างขวาง
ระหว่างรอเช็คอินก็ดื่มเวลคัมดริ๊งค์เย็นๆไปก่อน
The Lounge เป็นบาร์ที่ดูสบายๆ ไว้นั่งเล่นพูดคุยกับเพื่อน มีค็อกเทลเด็ดๆ จะเล่นพูลตรงนี้ก็น่าสนุกไม่น้อย
บริเวณนี้เปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 5 ทุ่มค่ะ
ห้องอาหาร The Exchange มีเมนูที่เป็นพวกออแกนิกสำหรับคนที่รักสุขภาพด้วยนะ ห้องอาหารเปิดทั้งวันเลยค่ะ มื้อเช้า กลางวัน เย็น สามารถดูเมนูอาหารจากในห้องพักได้ด้วย เพราะนี่ก็นั่งดูอยู่เหมือนกัน น่าทานทั้งนั้นเลย
เวลาเปิด-ปิด
Breakfast: 06:30 – 11:00
Lunch: Noon – 15:00
Dinner: 18:00 – 22:00
Room Service: Daily, 24 hours
วิวตรงนี้คือสวยงามตายไปเลย ชอบมากกกกกก สระว่ายน้ำสวยงาม ที่โรงแรมมีสระทั้งหมด 3 สระค่ะ แต่ละตึกก็จะมีสระของตัวเอง ( 2 สระ ) อีกสระอยู่ริมทะเลเลย สวยไปคนละแบบ ไม่เหมือนกันสักสระค่ะ
จากรูปที่เห็นคือทางเดินด้านล่างที่มีน้ำไหลลงมาสวยมาก
ตรงกำแพงจะมีน้ำไหลลงมาให้ดูสวยงาม
มาดูห้องที่จ๊ะจ๋าพักกันดีกว่าค่ะ ห้อง “Deluxe Pool Access Rooms”
Room types
– Superior Rooms (ราคาประมาณ 4,400 บาท ไม่รวมอาหารเช้า)
– Deluxe Pool Access Rooms (ราคาประมาณ 5,400 บาท ไม่รวมอาหารเช้า)
– Junior Suite (ราคาประมาณ 6,400 บาทรวมอาหารเช้า)
– Junior Pool Access (ราคาประมาณ 7,400 บาทรวมอาหารเช้า)
– One Bedroom Suites with Pool (ราคาหลักหมื่นบาท)
– Two Bedroom Suites with Pool (ราคาหลักหมื่นบาท)
– Presidential Suite ห้องนี้ใหญ่สุดเลยค่ะ (ราคาหลักหมื่นบาท)
ห้อง Superior กับ Deluxe Pool Access มีขนาดไซส์เท่ากันค่ะ ห้องกว้าง 55 ตารางเมตร แต่แตกต่างกันที่ห้อง Deluxe Pool Access สามารถเปิดประตูออกมาแล้วลงสระว่ายน้ำได้เลย ห้องพักติดสระน้ำเลยค่ะ ถ้าห้อง Superior ก็ต้องเดินลงมาค่ะ ราคาจะต่างกันอยู่ประมาณ 1,000 บาท
เดินเข้ามาก็จะมีที่วางร่ม ที่วางกระเป๋าและกระจกอยู่ททางขวามือ ถัดมาเป็นตู้เสื้อผ้าค่ะ ดีงามตรงที่มีเตารีดและที่รองรีดให้ด้วย เลิฟ
น้ำดื่มฟรีวันละ 2 ขวด ไม่พอขอเพิ่มได้
ห้องน้ำกว้างมาก แบ่งห้องอาบน้ำและห้องส้วม
ผลิตภัณฑ์ทุกตัวในห้องน้ำที่ Radisson Blu ใช้ของ thisworks หมดเลยค่ะ กลิ่นหอมมากถึงมากที่สุด
ตรงนี้สามารถปิด-เปิดผ้าม่านได้นะคะ เผื่ออยากจะแช่น้ำแล้วดูทีวีไปด้วย ไม่ต้องกลัวว่าจะได้ดูแต่ภาพเลย ในห้องน้ำมีลำโพงด้วย สามารถเปิด-ปิด ปรับเสียงได้
นาฬิกาที่หัวเตียงเป็นลำโพงบลูทูธ สวิตช์ไฟทั้งหมดเปิด-ปิดได้จากหัวเตียงทั้งสองข้างเลย สะดวกดี
ทีวีดิจิตอล เล่นเน็ต ฟังเพลง ดูหนัง ช่องต่างประเทศ นอนพักผ่อนสบายเลย
ถัดจากทีวีก็เป็นโต๊ะแต่งหน้าที่กว้างและดีงามมาก มานั่งแต่งหน้าตรงนี้คือไม่มีแต่งหน้าพลาดแน่ๆ
โซฟาเบดที่กว้างสามารถนอนได้อีกคนเลยทีเดียว
Complimentary ค่ะมีผลไม้กับคานาเป้ แซลมอนรมควันและชีส อร่อยยยย
ห้องกว้าง ตกแต่งสวยสะอาดตา เตียงและหมอนนุ่มมาก
เปิดระเบียงออกมาก็มีเตียงควีนไซส์ไว้มานั่งเล่น นอนเล่นริมสระได้ด้วย ชิวไปอี๊กกกก
ว่าแล้วก็ลงไปว่ายน้ำดีกว่า เตรียมชุดว่ายน้ำมาเพื่อประการนี้เลย ห้องพักติดสระ สบายละทีนี้
มีที่นั่งขอบสระ วิวตรงนี้ก็สวยงาม
มาเดินเล่นดูรอบๆโรงแรมกันดีกว่าค่ะ
ห้องอาหาร The Ivy อยู่ฝั่งบีชฟร้อนท์ วิวดี ลมพัดโกรก เย็นสบาย เปิดทั้งวันเช่นกันค่ะ แต่ถ้าดินเนอร์ต้องรอครัวเปิดเย็นๆ ไม่แน่ใจว่ากี่โมง แต่คิดว่าน่าจะประมาณ 6 โมงเย็นค่ะ ตอนกลางวันก็มานั่งสั่งเครื่องดื่มเย็นๆได้เช่นกัน
เวลาเปิด-ปิด
Daily: 08:00 – 23:00
Lunch: 11:00 – 18:00
Dinner: 18:00 – 23:00
Fri–Sat: 08:00 – 01:00
ชั้นบนจะเป็น Ivy Lounge แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดบริการค่ะ เพราะยังไม่ได้ลงเฟอร์นิเจอร์ คาดว่าเร็วๆนี้เปิดแน่นอน พื้นที่ด้านบนคือน่าชวนเพื่อนๆมาชิลเอ้าท์ มาเฮฮาปาร์ตี้มากๆ เพราะเค้าบอกว่าตอนกลางคืนยิ่งดึกๆ เพลงก็จะบีทอัพไปเรื่อย ดื่มค็อกเทลแล้วปล่อยตัวไปกับเสียงเพลงและสายลม อะไรมันจะดีไปกว่านี้ล่ะ
มื้อค่ำของวันแรกจะทานกันที่ห้องอาหาร The Ivy ค่ะ ตอนที่มาถ่ายรูปคือเดินมาสำรวจไว้ก่อน อิอิ
มีนกคุ้มคอยพ่นน้ำด้วย น่ารักนะ
มาทานมื้อค่ำกันเถอะ จองโต๊ะไว้ตอน 1 ทุ่มค่ะ
ขนมปังเสิร์ฟมาให้ทานเล่นๆระหว่างรออาหารค่ะ
ดิพ 3 อย่าง มีกระเทียมย่าง ตรงกลางนี่ไม่ทราบชื่อแต่จ๊ะจ๋าว่าอร่อยสุด สีเขียวๆนี่เป็นเพสโต้ค่ะ
จ๊ะจ๋าก็ทาทั้งซอสสีส้มๆกับกระเทียมเลย กลายเป็นขนมปังกระเทียมไปอีก อร่อย อิอิ
Ring of Fire
ที่นี่เค้านำเสนอพิซซ่าเลยค่ะ แม้จะกลัวอ้วนไม่น้อย แต่ก็อยากจะลองอะไรที่เค้าว่าเด็ด อ่ะ…จัดมาค่ะ
พิซซ่าแป้งบางกรอบ มีชีส มอสซาเรลล่า และมะเขือเทศ รสชาติเข้มข้นมาก และเผ็ดใช้ได้เลยค่ะ
รสชาติไม่ได้เลี่ยนๆเลย อร่อยมาก แบบถูกปากเลยค่ะ คาดว่าเชฟน่าจะทำแบบฟิวชั่นให้เข้ากับปากคนไทยที่ชอบทานอาหารที่มีรสชาติกลมกล่อม รสจัด ถ้าใครทานเผ็ดได้ไม่มากอาจจะต้องบอกเค้าว่าเผ็ดน้อยนะคะ เพราะเผ็ดจริงๆ
กะว่าจะทานแค่ชิ้นเดียวแบบชิมๆ แต่ไหงล่อไป 2 ชิ้นนิดๆล่ะนี่
Yellow Lentil Soup
เป็นซุปฝั่ง Middle East ซึ่งจ๊ะจ๋าพึ่งจะเคยทานครั้งแรกค่ะ เสิร์ฟคู่กับแป้งแผ่นๆซึ่งจ๊ะจ๋าลืมชื่อไปแล้ว ฮ่าๆ
รสชาติก็จะออกแบบถั่วๆหน่อย ไม่เหม็นเขียว ทานง่าย อร่อยถูกใจค่ะ เป็นการชิมเมนูนี้ครั้งแรกแล้วเลิฟเลย
Pad Thai Soft Shell Crab
ผัดไทยปูนิ่ม เมนูสร้างสรรค์มากค่ะ ปกติเราจะเห็นแต่ผัดไทยกุ้งสดที่จะแข่งกันเสิร์ฟกับกุ้งตัวโตๆ ที่ห้องอาหารนี้แตกต่างออกไปคือเป็นปูนิ่มแทน เส้นผัดไทยเหนียวนุ่มอร่อย ทานกับปูนิ่มทอดที่มีรสชาติหวานๆเค็มๆ คืออร่อยมากกก
Skew Me
เมนูนี้เลือกได้ว่าจะทานเนื้อ หมู หรือไก่ จ๊ะจ๋าเลือกหมูค่ะ เพราะไม่ทานเนื้อ
เนื้อหมูจะมีมันแทรกอยู่ด้วย แฟนจ๊ะจ๋าชอบมากกกกก ทานไปเยอะเลยค่ะ แต่ส่วนตัวแล้วจ๊ะจ๋าไม่ค่อยชอบ เพราะเป็นคนที่ชอบหมูไม่ติดมัน แล้วก็เนื้อหมูกริลล์สุกไปหน่อยค่ะ เลยแอบแห้งนิดๆ แต่รสชาติอร่อยนะคะ
Blueberry cheesecake
ชีสเค้กที่แปลกกว่าก่อนๆที่เคยเห็น หน้าตาดูไม่เหมือนบลูเบอร์รี่ชีสเค้กเท่าไหร่ค่ะ ซอสด้านหน้าสีชมพูนั่นคาดว่าเป็นซอสบลูเบอร์รี่มั้งคะ ทั้งๆที่มันออกแนวเป็นสตรอเบอร์รี่มากกว่า แต่เนื้อชีสเค้กเนียนนุ่มดีงาม ยอมให้เลยแม้ว่าเกือบจะ 3 ทุ่มแล้วก็ตาม
Homemade Ginger Parfait
เป็นมูสช็อคโกแลตเข้มข้น ด้านในมีขิงซอยเส้นเล็กๆแทรกอยู่ ไม่ว่าจะตักคำไหนก็เจอค่ะ ถ้าคนที่ไม่ชอบทานขิงก็อาจจะวางช้อนลงตั้งแต่ช้อนแรกเลย แต่จ๊ะจ๋าทานได้ แต่ก็ไม่ได้ปลาบปลื้มขนาดนั้น เลยทานไปได้แค่ 2-3 คำค่ะ น่าเสียดายรสชาติดาร์กช็อคและเนื้อละมุนของมูสช็อคโกแลต
ทานมื้อดึกเสร็จก็ไม่กล้านอนเลยนะคะ กลับห้องไปพักให้ย่อยแล้วหยิบชุดว่ายน้ำมาว่ายอีกรอบ รู้สึกผิดกับตัวเองมากๆ อาหารดันอร่อยไปหน่อย ตามใจปากเลยค่ะ
ตอนเช้าก็มาทานอาหารที่ห้องนี้ค่ะ มีห้องแอร์ด้านในด้วยนะคะ แต่ไม่ได้ถ่ายมา จ๊ะจ๋าว่ามาทะเล รับลมเย็นๆข้างนอกนี่ล่ะชิวดี ช่วงที่จ๊ะจ๋ามาเนี่ยแขกค่อนข้างน้อยค่ะ เค้าเลยไม่ได้จัดไลน์บุฟเฟ่ต์ น่าเสียดายมากเลยค่ะ เพราะดูจากรูปแล้วอาหารเยอะมาก หน้าตาน่าทานทั้งนั้น นี่ก็เลยต้องสั่งเป็น A la carte แทน แต่ไม่จำกัดนะคะ จะสั่งเท่าไหร่ก็ได้จนกว่าจะอิ่มเลย
เช้าแรกจ๊ะจ๋าสั่งเป็นเซ็ต American breakfast ค่ะ ในเซ็ตก็จะมีเบเกอร์รี่มาให้แบบนี้ต่อหนึ่งคน
ในเซ็ตสามารถเลือกไข่ได้ว่าอยากได้แบบไหน ออมเล็ท สครัมเบิล ไข่ดาว ไข่ต้ม ไข่ลวก ฯลฯ
จ๊ะจ๋าทานออมเล็ทใส่ทุกอย่างค่ะ ได้ฟินชีสแต่เช้าเลยทีเดียว
ตบท้ายด้วยฟรุตสลัด เป็นน้ำส้มกับผลไม้ค่ะ มีกีวี่ แก้วมังกร มะม่วง ขนุน สตรอเบอร์รี่และสับปะรด ชื่นใจ~~
แฟนสั่งเป็นเซ็ตอาหารไทยค่ะ นี่ก็จัดเต็มทุกอย่างเลย ทั้งข้าวต้ม ข้าวผัดและปอเปี๊ยะทอด
ข้าวต้มตอนที่มาเสิร์ฟแอบเย็นไปหน่อย เพราะพนักงานรอเสิร์ฟพร้อมข้าวผัดร้อนๆค่ะ ข้าวผัดมาร้อนเลยแต่ข้าวต้มนี่เย็นชืดเลย ก็เลยขอให้เค้าเอาไปอุ่นให้อีกรอบค่ะ รสชาติอร่อยกลมกล่อมเลยค่ะ
ข้าวผัดกุ้งจานนี้จะออกรสหวานนำค่ะ เมล็ดข้าวร่วนดี กลิ่นหอมมาก รสชาติถูกปาก จ๊ะจ๋าแอบตักไปหลายคำเลยค่ะ
อันนี้เป็นของวันที่ 2 ค่ะ วันนี้สลับกันบ้างละ แฟนสั่ง American breakfast เลือกเป็นสครัมเบิลใส่ทุกอย่าง
ในเซ็ตนี้ก็จะมีขนมปังแล้วก็ฟรุตสลัดเหมือนรูปด้านบนเลยค่ะ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาเนอะ
ส่วนจ๊ะจ๋านั้นขอแหวกแนวนิดหน่อย สั่งเซ็ต Healthy มา ก็จะเป็นพวกผักผลไม้ สำหรับคนรักสุขภาพ คืออยากจะลองนั่นเอง ในเซ็ตก็จะมีขนมปังโฮลวีทมาให้ 2 แผ่น
สลัดผักโยเกิร์ตค่ะ การทานโยเกิร์ตตอนเช้านี่เป็นสิ่งที่จ๊ะจ๋าทำเป็นประจำแทบทุกวันเลยค่ะ
มีแตงกวา แครอทและผักชื่ออะไรสักอย่างจำไม่ได้ค่ะ ทานแบบดิบๆเลย อร่อยกรุบกรับ ถ้าไม่ใช่สายอีทคลีนอาจจะไปไม่รอดแน่ๆ แต่จ๊ะจ๋าชอบ
ตบท้ายด้วยฮันนี่ฟรุตสลัด เป็นผลไม้ต่างๆราดน้ำผึ้งค่ะ อร่อยแบบเพลิดเพลินมาก
มื้อนี้ของจ๊ะจ๋าไม่ได้มีเท่าที่เห็นหรอกค่ะ จ๊ะจ๋าสั่งออมเล็ท ไส้กรอก แฮมและเบคอนเพิ่มด้วยอีกจาน อิอิ
ทริปหัวหินครั้งนี้เน้นพักผ่อน หาร้านคาเฟ่ ทานขนมเค้กอร่อยๆ ไม่ได้เที่ยววัด เที่ยววัง หรือสถานที่ท่องเที่ยวอะไรเลยค่ะ
เป็นทริปที่ชิวมาก และที่พักคือตอบโจทย์สุดๆ สะดวกสบาย การบริการดีเยี่ยม มีสระว่ายน้ำ มีฟิตเนสด้วยนะแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะจ๊ะจ๋าลืมเอารองเท้าผ้าใบไปค่ะ อดเลย คราวหน้าไม่พลาดแน่ค่ะ
หากใครจะตามมาชิววันหลัง แนะนำให้ลองเช็คราคาโรงแรมกับ Traveloka ก่อนที่ลิงค์นี้ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/radisson-blu-resort-hua-hin-1000000615988 เพราะจองผ่านเวบไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ เห็นราคาไหนจ่ายแค่นั้น แต่หากจองผ่านแอฟพลิเคชั่นจะได้ ราคาที่พักถูกลงไปอีก ชอบตรงความง่ายในเรื่องของการชำระเงิน คือถ้าไม่มีบัตรเครดิตก็จองผ่านออนไลน์ได้ เพราะมีหลายช่องทางให้เลือกจ่ายเงิน แล้วแต่ความสะดวกเลยค่ะ
สามารถดูรายละเอียดต่างๆของโรงแรมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.radissonblu.com/en/resort-hua-hin/rooms
Tel: +66 (0) 32 421-777
Fax: +66 (0) 32 472-822
Email: huahin@radisson.com