สวัสดีค่าาา บล็อคนี้จ๊ะจ๋ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหม่ของอัมพวามาแนะนำกันค่ะ ปกติแล้วเนี่ยเวลาไปอัมพวาก็มักจะคิดถึงตลาดน้ำที่มีร้านอาหารเต็มไปหมด และขับรถไปไม่ไกลมากจากกรุงเทพ มักจะมาเที่ยวเล่นกันในหยุดเสาร์-อาทิตย์
ครั้งนี้ก็มาอัมพวาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้สำหรับจ๊ะจ๋า แต่มีที่ใหม่เพิ่มเติมมานั่นก็คือโครงการชูชัยบุรีศรีอัมพวา
ซึ่งเค้าไม่ได้เปิดแค่เสาร์-อาทิตย์เหมือนตลาดน้ำอัมพวานะคะ ที่นี่เปิดบริการทุกวันเลย ตั้งแต่ 10 โมงถึง 3 ทุ่ม
แล้วเป้าหมายของจ๊ะจ๋าและหมู่คณะในวันนี้ก็คือการมาทานอาหารที่ร้าน ณ คิดถึงค่ะ
หลบแดดร้อนๆมานั่งตากแอร์เย็นๆในห้องอาหารกันดีกว่า
Set up ดูดี
ราคาอาหารก็จะอยู่ที่ 180+ บาทค่ะ
สะเต๊ะผัดปลาหมึก 180 บาท
ปลาหมึกดึ๋งดั๋ง ทานเล่นเพลินๆกันไปก่อน น้ำสะเต๊ะอร่อยดี ด้านล่างมีขนมปังปิ้งมาด้วยนะ
ส้มตำยำหัวปลีไก่ย่างชูชัยบุรี 220 บาท
ไก่ย่างอร่อยค่ะ เนื้อไม่ชุ่มฉ่ำไม่แห้ง มีรสหวานๆของเครื่องที่หมัก ส่วนยำหัวปลีนี่เพิ่งเคยทานครั้งแรก จากที่เคยคิดว่าจะต้องเหม็นต้องทานยาก แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดค่ะ อร่อยดี ไม่เหม็นไม่ขม
หมูต้มเค็มกะทิใบชะคราม 200 บาท
เมนูนี้ไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน รสชาติที่โดนใจเลยค่ะ เนื้อหมูจะเค็มๆหน่อย ทานคู่กับแกงกะทิคือดีงาม อร่อยค่ะ
พล่ากุ้งกะลามะพร้าว
จานนี้เป็นกุ้งแม่น้ำอัมพวาค่ะ หัวกุ้งจะไม่มันเลี่ยน แต่จ๊ะจ๋าว่าจานนี้ยังไม่โดนเท่าไหร่ เพราะเนื้อกุ้งแห้งเกินไปค่ะ
ทานแล้วแห้งๆแข็งๆ ส่วนสีขาวๆนั่นมะพร้าวนะคะไม่ใช่ไข่ต้ม อิอิ
เมี่ยงปลาทูอัมพวา 230 บาท
เป็นอาหารทานเล่นที่เวิร์คค่ะ เมี่ยงทำมาแบบผสมกันเรียบร้อยเลยไม่ต้องหยิบตักอะไรให้ยุ่งยาก เพิ่มเติมเอาเองคือความเผ็ดของพริก เม็ดมะม่วงและกล้วยเบรคแตกค่ะ
บะหมี่แกงปูใบชะพลู 250 บาท
เมนูนี้เป็นอาหารจานเดียวนะคะ มีแกงปูเสิร์ฟคู่กับบะหมี่ แต่นี่สั่งมาทานด้วยกันเพราะอยากทานแกงปู รสชาติก็อร่อยดีค่ะ ไม่เผ็ดมาก
ปอเปี๊ยะปลาทูแม่กลอง 150 บาท
ก็ทานเล่นได้ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างจากปอเปี๊ยะที่อื่นเท่าไหร่ในเรื่องรสชาติ แนะนำว่าควรทานตอนร้อนๆนะคะ
ผัดพริกสดทะเล 180 บาท
จานนี้มีแต่อาหารทะเลสดๆชิ้นใหญ่ๆ
ปลากระพงทอดน้ำปลา เสิร์ฟคู่กับยำผลไม้ (ผลไม้จะต่างกันในแต่ละวัน) 390 บาท
ปลากะพงจะแตกต่างจากร้านอื่นๆตรงที่เค้าตัดแบ่งเป็นชิ้นๆมาให้แล้วนะ ก็สะดวกต่อการตักทานดีค่ะ
เนื้อปลาหวานอร่อย กรอบไม่มากเท่าไหร่ มีความนุ่มนิ่มอยู่ ส่วนยำผลไม้เนี่ย แต่ละวันเค้าก็จะเสิร์ฟแตกต่างกันนะคะ ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นมีผลไม้แบบไหน
น้ำพริกมะดัน 230 บาท
เป็นเมนูที่จ๊ะจ๋ายกให้เป็น Recommended ของร้านนี้เลยค่ะ น้ำพริกมะดันอร่อยมาก ซึ่งเค้าไม่ใช้มะนาวเลยนะ ใช้ความเปรี้ยวของมะดันกกับอะไรแล้วนะ(จำไม่ได้ ฮ่าๆ) คืออร่อยมากค่ะ เป็นรสชาติเปรี้ยว เผ็ด หวาน
แกงส้มกรรเชียงปูหน่อไม้ดอง ใบชะคราม 280 บาท
รสชาติคล้ายๆแกงส้มใต้ แต่น้ำใสกิ๊ง เลยบอกไม่ถูกว่ายังไง รสชาติก็เบาไปนิดค่ะ ถ้าคนทานเผ็ดไม่มากก็อาจจะชอบนะ
สังขยาฟักทอง 80 บาท
มะม่วงพุดดิ้งว่านหางจระเข้ส้มโออัมพวา 120 บาท
เมนูนี้สดชื่นนนนน
หม้อแกงเผือก 80 บาท
จุดนัดพบ 140 บาท
ม็อกเทลหวานๆ
นางพญาร้อยชู้ 140 บาท
ชื่อเมนูนี้ทำเอาตะลึง ฮ่าๆ
หลังจากที่ทานมื้อกลางวันอิ่มแล้วก็ขอไปเดินย่อยในโครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวาหน่อย
ค่าเข้าตามนี้ค่ะ ต่างชาติคนละ 300 บาท คนไทย 150 บาท เด็กเข้าฟรี
มีความร่มรื่นย์เล็กน้อย แต่ก็สู้แดดอันร้อนแรงไม่ได้อยู่ดี แนะนำว่าถ้ามาเดินช่วงเที่ยงๆกลางวันเนี่ย พกร่มเถอะค่ะ
มีขายของ ประมาณพวก OTOP (มั้ย)
มีมุมขายขนมเบาๆ
นอกจากจะเป็นที่เดินเล่นเที่ยวชมแล้ว ที่นี่ยังมีห้องพักด้วยนะคะ
เรือนไทยด้านบน กลุ่มจ๊ะจ๋าได้เข้ามาเยือนเป็นกลุ่มแรกเลย เพราะจริงๆแล้วเค้ายังไม่ได้เปิดให้คนนอกเข้าชมค่ะ
ด้านในก็เป็นของสะสมของคุณชูชัย เจ้าของที่นี่ แล้วก็มีที่สักการะบูชา
เดินเล่นเสร็จก็ลงไปนั่งเรือชมวิว(เกือบ)รอบเกาะอัมพวา
มุมมองจากในเรือ
แวะลงมาถ่ายรูปที่อาสนวิหารแม่พระบังเกิด โบสถ์คริสต์ใกล้อัมพวา
ใช้เวลานั่งเรือมาถึงนี่ก็เกือบ 2 ชั่วโมง น้ำตาจะไหล ร้อนมากกกกกก
เราก็กลับมาดูโชว์ตอนเย็นที่ชูชัยบุรี ศรีอัมพวาต่อ ที่นี่เค้ามีโชว์ทุกวันนะคะ
แดดเริ่มจะหมด ก็ถึงเวลาทานอาหารเย็นกันแล้วสิ ตอนเย็นนั่งริมน้ำชิลๆเลยค่ะ
มีนักร้องสุนทราภรณ์ร้องเพลงคลอเบาๆ
กับข้าวมื้อเย็นวันนี้ หลายเมนูที่เหมือนกับตอนกลางวัน แต่ที่อร่อยโดดเด่นและไม่ซ้ำก็คือแอ๊บปลาเก๋าค่ะ อร่อยมากกกก
เป็นห่อหมกย่างที่มีเนื้อปลาเก๋าชิ้นใหญ่ๆล้วนๆ เมนูนี้เด็ด!
ตบท้ายด้วยชีสเค้กช็อคโกแลต
ชีสเค้กอีกชิ้น จำไม่ได้ว่าเมนูชื่ออะไรนะคะ ทั้งสองเมนูนี่มาจากร้านเบเกอรี่
ใครที่ไปเที่ยวอัมพวาแล้วอยากจะลองทานอาหารที่รสชาติอร่อยแล้วก็ดูแปลกใหม่ก็ลองแวะที่ห้องอาหาร ณ คิดถึงดูค่ะ