สวัสดีค่ะ บล็อคนี้จ๊ะจ๋าจะพาไปอิ่มอร่อยกันที่ร้าน “FLANN O’BRIEN’S Irish Pub” สาขาทองหล่อกันค่ะ
ร้านฟลานโอเบรียนส์ ไอริช ผับมี 3 สาขาในกรุงเทพนะคะ แต่จ๊ะจ๋ามาทานที่สาขาทองหล่อซึ่งตั้งอยู่ในตึก 8 Thonglor (ตึกเอททองหล่อ) ร้านอยู่ติดถนนเลยค่ะ อยู่ซอยทองหล่อ 8
มีที่จอดรถในอาคาร
ร้านเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 01.00น.
แล้วก็มีดนตรีสด ทุกวันพุธ ตั้งแต่ 19.00 น. เป็นต้นไป แต่วันที่จ๊ะจ๋าไปทานเป็นวันจันทร์ค่ะก็เลยไม่ได้ฟังเพลง
No strangers at Flann O’Brien’s ,Only friends you haven’t met yet เป็นสโลแกนของทางร้านค่ะ
ทำให้จ๊ะจ๋านึกถึงหนังหลายๆเรื่องที่เคยดูมาเลย ที่เข้าร้านไปแล้วสั่งเบียร์มาดื่ม คุยกับคนแปลกหน้าก็ได้เพื่อนซะงั้น
บรรยากาศร้าน มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาตินะคะ
ร้านแบ่งเป็น 3 โซน ซึ่งโซนแรกจะเป็นส่วนด้านในของร้าน มีการถ่ายทอดกีฬาจากจอทีวี มีดนตรีสด โซนที่ 2 จะเป็นส่วนด้านนอกจะเป็นโซนที่ให้บริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการสูบบุหรี่ บรรยากาศเสมือนอยู่ในสวนในเมืองดับลิน และส่วนโซนที่ 3 เป็นชั้น 2 จะมองเห็นทัศนียภาพยามค่ำคืน ก็สวยและชิลไปอีกแบบค่ะ แต่โซนนี้ไม่ได้เปิดทุกวันค่ะ อย่างวันที่จ๊ะจ๋าไปคนไม่เยอะมาก เค้าก็ไม่เปิดค่ะ
เป็นผับไอริชแต่เบียร์มีหลายสัญชาตินะ
บรรยากาศภายในร้านดูอบอุ่นดีค่ะ ถึงชื่อร้านจะเป็นผับแต่ว่าเด็กเข้าได้นะคะ
จ๊ะจ๋าเห็นหลายๆโต๊ะก็มีเด็กมาด้วย มาทานข้าวกันแบบครอบครัว
ถ่ายแต่เมนูเครื่องดื่มมา แหะๆ ราคาก็ไม่แพงนะ
มาร้านไอริชก็ต้องสั่งเบียร์ไอริชใช่ไหมคะ
Kilkenny (เบียร์คิลเคนนี่) : รสแหลม อ่อนกว่าเบียร์กินเนส ผู้หญิงยังพอดื่มได้อยู่
ขนาด Half ราคา 170 บาท ส่วนขนาด Pint ราคา 280 บาท
Magners Irish Cider (แมกเนอ ไอริช ไซเดอร์) : เป็นเครื่องดื่มไซเดอร์ เหมาะสำหรับผู้หญิงอย่างเรา หรือคนชอบกลิ่นผลไม้ เพราะเครื่องดื่มตัวนี้สกัดจากแอปเปิ้ล รสชาติหอมหวาน ทานง่ายมาก
ขนาด Half ราคา 150 บาท ส่วนขนาด Pint ราคา 260 บาท
Guinness (เบียร์กินเนส) : กลิ่นหอม รสชาติเข้มมาก จ๊ะจ๋าเพิ่งจะดื่มเบียร์ได้ไม่นานเอง แล้วมาเจอแก้วนี้ เข้มที่สุดที่เคยดื่มมาเลยค่ะ สำหรับผู้หญิงอาจจะไม่ชอบ คิดว่างั้นนะ
ขนาด Half ราคา 170 บาท ส่วนขนาด Pint ราคา 280 บาท
Chef’s House Salad ( ราคา 210 บาท )
เป็นสลัดผักสไตล์ไอริช ดีต่อสุขภาพด้วยอกไก่ย่างเนื้อนุ่มไร้ไขมันและพาสต้าชีสและแฮม
ผักคอซและผักรวมน้ำเดรสซิ่งบัลซามิกผสมเม็ดแคปเปอร์และมะกอกดำ,เขียว
เป็นสลัดที่ทานง่าย รสชาติอร่อย ทานแล้วรู้สึกเบาตัวดีค่ะ ถ้าไดเอทอยู่ก็ทำเป็นมองข้ามชีสกับแฮมไปก็โอเค
Grilled Trio of Imported Lamb Chops ( ราคา 695 บาท )
ขาแกะจากนิวซีแลนด์ นำมาหมักไวน์แดงแล้วนำไปย่างจนหอม
เสิร์ฟคู่กับน้ำเกรวี่ที่จากน้ำสต็อกเนื้อที่เคี่ยวนานหลายชั่วโมงผสมเครื่องเทศไอริชอย่างใบไทม์ ออริกาโน่และโรสแมรี่
ทานคู่กับสลัดผักพร้อมน้ำเดรสซิ่งบัลซามิก
Flann’s Truffle Butter Beef Burger ( ราคา 450 บาท )
เบอร์เกอร์เนื้อชั้นดี ใช้ขนมปังธัญพืชประกบด้วยเนื้อวัวบด เบคอนและมอนเทอเรย์ แจ็คชีส พร้อมไข่ดาวน้ำ
หน้าตาดูดีเลยทีเดียว
ดูขนมปังสิ โอยยย เห็นแล้วอยากจะหยิบเข้าปากตั้งแต่ถ่ายรูปยังไม่เสร็จ
พอหั่นตรงกลางก็เยิ้มเลยค่า หน้าตาดูดีเลยทีเดียว
แต่เสียดายที่จ๊ะจ๋าไม่ทานเนื้อ พี่ๆบอกว่าอร่อยค่ะ
Bangers and Mash ( ราคา 320 บาท )
ไส้กรอกหมูสไตล์ไอริช เน้นรสชาติแบบดั้งเดิมไร้แป้งและมีส่วนผสมของเครื่องเทศสดสไตล์ตะวันตก ทานคู่กับโปเตโต้แมช ราดด้วยซอสเกรวี่ที่ทำจากนำสต็อกผสมหอมหัวใหญ่
ไส้กรอกชิ้นใหญ่มากค่ะ เนื้อไส้กรอกกรอบเด้งมากๆ ทานแล้วรู้สึกว่าเป็นหมูล้วนไม่มีแป้งผสมเลยค่ะ
Chicken Pot Pie ( ราคา 320 บาท ) ***Kittyjaja’s recommended***
พายสตูว์ไก่ เมนูนี้จ๊ะจ๋าโปรดที่สุดในมื้อเลยค่ะ อร่อยมาก
แป้งพายนุ่มมาก ด้านในเป็นสตูว์ไก่ ไก่สับเป็นชิ้นพอดีคำ มีเห็ดกระดุม ขึ้นฉ่ายฝรั่ง เห็ดแชมปิยอง
รสชาติเหมือนพายไก่ไวท์ซอสที่อร่อยมากๆเลยค่ะ คือครีมมี่สุดๆ ละมุนลิ้นถึงกับวางช้อนไม่ลง
Salmon Saab ( ราคา 260 บาท )
ร้านนี้มีอาหารไทยขายด้วยนะ
แซลมอนรมควันราดด้วยน้ำยำแบบไทยๆที่รสแซ่บมากๆ ดูจากรูปก็คงจะเดาได้ไม่ยากว่าซี้ดขนาดไหน
ทานคู่กับผักกะหล่ำด้านล่างก็อร่อยกรุบกรับ
เมนูนี้แก้เลี่ยนจากอาหารจานอื่นๆได้สบายเลยค่ะ
Sample Sliders ( ราคา 360 บาท )
เป็นเบอร์เกอร์ 3 ชิ้นที่ถูกทำเป็นไซส์มินิลงมาจากขนาดจริง เพื่อให้ลูกค้าได้ลองหลากหลาย
เรียงจากซ้ายไปขวา : เบอร์เกอร์ปู, เนื้อและไก่
จ๊ะจ๋าทานไปแค่ 2 ชิ้นค่ะ เป็นเบอร์เกอร์ปูกับเบอร์เกอร์ไก่ เบอร์เกอร์เนื้อขอข้ามเพราะไม่ทานเนื้อ
และแน่นอนว่า 2 ชิ้นนี้ทานคนเดียวหมดเกลี้ยงค่ะ เย่ !
เบอรเกอร์ปู : ขนมปังธัญพืชอร่อยแปลกใหม่ โดนใจมากค่ะ แป้งนุ่มกำลังดี ไส้ปูจะรสไม่จัดจ้าน แต่รู้ถึงรสชาติของเนื้อปูชัดเจนเลย
เบอร์เกอร์ไก่ : แป้งขนมปังก็ต่างกันอีกละ ของชิ้นนี้จะกรอบกว่า กลิ่นหอมแบบละมุน ไก่ทอดมีรสชาติเผ็ดๆอารมณ์ประมาณวิงซ์แซ่บอ่ะค่ะ ชิ้นนี้โดนใจที่สุดเลย
จากเบอร์เกอร์ข้างบนที่เป็นชิ้นใหญ่ จ๊ะจ๋าไม่ทานเพราะเป็นเนื้อ แต่พอมาเป็นชิ้นเล็กกลายเป็นว่าขนมปังธัญพืชมาโปะอยู่บนเบอร์เกอร์ปู แบบนี้ก็เข้าทางเลยสิคะ
Berry Panna Cotta ( ราคา 99 บาท )
พานาคอตต้าในถ้วยที่ขนาดกำลังพอดี ไว้เป็นของหวานล้างปากแบบเบาๆ รสชาติไม่หวานมาก
ด้านบนเป็นซอสเบอร์รี่เปรี้ยวๆที่ช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นยิ่งขึ้น
Crème Brulee ( ราคา 99 บาท )
เป็นเมนูขนมที่จ๊ะจ๋าโปรดเลยทีเดียว รสชาติกำลังดี เสิร์ฟมาแบบอุ่นๆเลย เนื้อคัสตาร์ดนุ่มมาก แตะลิ้นแล้วจะละลายเลย อะไรประมาณนั้น แต่หวานไปนิดนะ จ๊ะจ๋าไม่ค่อยชอบทานหวานมากค่ะ
ร้านฟลานโอเบรียนส์ ไอริช ผับ เป็นอีกร้านที่ไปทานแล้วประทับใจค่ะ แล้วก็เปลี่ยนมุมมองกับร้านอาหารสไตล์นี้ไปเลย คือจ๊ะจ๋าขับรถผ่านร้านนี้บ่อยๆแต่ไม่เคยแวะเข้ามาทานเลยเพราะคิดว่ามีแต่เหล้าเบียร์ และน่าจะดูน่ากลัว
แต่พอมาจริงๆแล้วมันไม่ใช่อย่างที่เราคิด ร้านนี้เป็นร้านที่เหมาะแก่การพาครอบครัวมาทาน นัดคุย นัดเมาท์กับเพื่อนๆ สนุกสนานเฮฮา หรือจะเข้ามาทานข้าวอย่างเดียวก็เวิร์คเพราะเมนูอาหารมีเยอะมากเช่นกัน ไม่ได้มีแค่อาหารยุโรปเท่านั้น อาหารไทยก็มี ที่สำคัญรสชาติอาหารอร่อยทั้ง 2 ชาติเลย
ที่เด็ดไปกว่านั้นคือในแต่ละวันจะมีโปรโมชั่นของวันนั้นๆ วันจันทร์-วันอาทิตย์จะมีอาหารราคาพิเศษในแต่ละวัน ซึ่งลดไปเยอะมากๆ สปาเกตตี้ลดแล้วเหลือจานละไม่ถึงร้อย โอ้วแม่เจ้า มันถูกมากสำหรับร้านนี้ เพราะจ๊ะจ๋าแอบเหลือบดูของโต๊ะข้างๆที่เค้าสั่งมาคือจานใหญ่มากและดูน่าอร่อยสุดๆเลย
ใครที่คิดไม่ออกว่าจะไปทานข้าวเย็นที่ไหนดี หรืออยากแฮงค์เอาท์กับเพื่อนหลังเลิกงานก็ลองมาร้านนี้ดูค่ะ แล้วจะชอบ