สวัสดีค่ะ บล็อคนี้จ๊ะจ๋าจะพาไปชม Anantara Huahin Resort ค่ะ จ๊ะจ๋าไปพักมาเมื่อวันที่ 11-13 กันยายน 2558 ค่ะ
ไปเที่ยวช่วงหน้าฝนพอดีเลย เหมาะแก่การนอนพักผ่อนแต่ในที่พักมากกว่าการออกไปเที่ยวข้างนอกค่ะ
จ๊ะจ๋ามาหัวหินบ่อยมาก ก็เลยไม่ได้สนเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวเท่าไหร่ เพราะไปหลายรอบแล้วเนอะ ไปดูรีสอร์ทกันดีกว่า
(จะเจอที่จอดรถก่อนจะมาถึงตรงนี้นะคะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปที่จอดรถมา แหะๆ)
เข้าไปเช็คอินกันก่อน
Lobby ค่ะ นั่งรอที่โซฟาแล้วพนักงานจะเอาฟอร์มมาให้กรอกเองค่ะ พร้อมเวลคัมดริ้งกับผ้าเย็น
ข้างๆเป็นร้านขายของที่ระลึกของรีสอร์ท เป็นช้างเต็มไปหมดเลยค่ะ
เมื่อเช็คอินเสร็จแล้วพนักงานก็นำทางไปยังห้องพักค่ะ ระหว่างทางจ๊ะจ๋าก็ถ่ายรูปไปเรื่อย
จากล็อบบี้เดินมาก็จะเจอห้อง Sala Siam ตอนค่ำๆจะมีดนตรีสดด้วย
ที่สำคัญมีช่วง Happy Hour ก่อน 4 ทุ่มด้วย กะว่าคืนพรุ่งนี้ค่อยมานั่งชิล เพราะวันนี้เหนื่อยแล้ว
น่านั่งเนอะ ดูสบายๆดี
เดินลงบันไดมา
จะเจอห้องอาหารสำหรับทานอาหารเช้า ( 6 โมง – 10 โมง)
ข้างๆจะมีห้องอาหารไทยด้วย แต่ไม่เปิดทุกวันค่ะ จะเปิดดินเนอร์แค่บางวันเท่านั้น จำไม่ได้เหมือนกันว่าวันไหน แหะๆ
เดินไปเรื่อยๆ รอบๆดูร่มรื่นย์มากค่ะ รีสอร์ทก็กว้างมากจริงๆ
ถึงห้องพักละค่ะ
เปิดห้องมาก็จะเจอตู้เสื้อผ้าทางขวามือ ทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ
ในตู้เสื้อผ้า มีชุดคลุม ร่ม รองเท้าใส่ในห้อง รองเท้าแตะเดินข้างนอก ถุงผ้า ไดร์เป่าผมและตู้เซฟ
มีน้ำดื่มให้ฟรี 2 ขวด พร้อมชา กาแฟ มีกาแฟถ้วยเล็กๆให้ด้วย ใช้กับเครื่องทำกาแฟ
ห้องที่พักเป็น Deluxe Garden View Room
ราคาห้องพักขึ้นอยู่กับช่วงที่เข้าพัก ตอนที่จ๊ะจ๋าไปพัก ราคาห้องคืนละ 3,xxx บาท จำไม่ได้ค่ะ
จ๊ะจ๋าจองโดยตรงกับทางโรงแรมนะคะ ไม่ได้ผ่านเว็บอื่นๆ
มีระเบียงให้ออกไปนั่งเล่นได้
เป็นเตียงควีนไซส์ 2 เตียงค่ะ คือรู้สึกผิดหวังกับเตียงมาก เตียงที่ติดฝั่งห้องน้ำคือเตียงบุ๋มไปเยอะมาก นอนไม่สบายเลย
ไม่นุ่ม ไม่เด้ง ต้องอพยพไปนอนอีกเตียงเดียวกัน ซึ่งสภาพดีกว่า แต่ก็ไม่ได้ดีมาก
กระจกตรงนั้นคือห้องน้ำค่ะ
มีโต๊ะไว้ทำงานด้วย
ในกระเช้าเป็นผลไม้ เป็น Complimentary จากทางรีสอร์ทค่ะ พร้อมมีดปลอกให้ด้วย
บนโต๊ะมีโปรแกรมของทางรีสอร์ท แต่ละวันจะมีกิจกรรมมากมายอาทิเช่น โยคะ ปั่นจักรยาน ทำอาหาร ฯลฯ
มีรายการสปาด้วย คอร์สเรียนทำอาหารไทยคนละ 4,000 บาท จำมาแค่นี้ อิอิ
ห้องน้ำ
มี Amenities ครบ อยู่ในลิ้นชักที่วางผ้าเช็ดมือ
กระจกห้องน้ำสามารถเปิด-ปิดสวิทช์ให้เป็นกระจกใสหรือกระจกฝ้าได้ ก่อนอาบน้ำก็เช็คกันดีๆนะ อิอิ
ฝักบัวอาบน้ำมี 2 อย่าง แบบเรนชาวเวอร์ด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายมา แหะๆ
มีครีมอาบนำ้ ยาสระผมและครีมนวดผม กลิ่นหอมมากๆทั้งหมดเลยค่ะ
ภายในห้องพักมาปลั๊กไฟเยอะ ตอบโจทย์คนที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้ามาด้วยเยอะ อย่างจ๊ะจ๋าเอากล้องมา 2 ตัว
โน๊ตบุค 2 เครื่อง มือถืออีก 2 เครื่อง คือชาร์จได้หมดเลย
ทีวีมีช่องเคเบิ้ลเยอะอยู่
ที่เซอร์ไพรส์คือมีเครื่องชั่งน้ำหนักในห้องพักเนี่ยล่ะ คือไม่เคยเจอที่ไหนมี แปลกดี
พอชั่งเสร็จแทบไม่อยากจะไปทานข้าวเย็นเลย ช็อค 55555
แต่ความรู้สึกนั้นมีอยู่แค่ 5 นาทีเท่านั้นล่ะ แปปเดียวก็ลืม ช่างมันๆ
จากนั้นก็ออกมาเดินเล่นรอบๆรีสอร์ท
สระว่ายน้ำ น่าจะปิดประมาณ 1 ทุ่ม ถ้าจำไม่ผิดนะคะ
ตรงนี้ลึกใช้ได้เลยล่ะ
มีบาร์เครื่องดื่มด้วย
ตรงนี้เป็นห้องอาหารบาร์บีคิว จะมีคืนวันเสาร์ค่ะ
โอ่งตกแต่งทั่วรีสอร์ทเลย บางจุดก็เป็นสีขาว
เดินเกือบจะถึงทะเลละ เจอเปลก็เลยแวะนั่งเล่นก่อน มันสบายมากเลย แกว่งไปมาหลับได้สบายเลย
เดินเล่นก็เวลาประมาณ 6 โมงเย็นแล้ว แดดไม่มีแล้วค่ะ อาจจะดูมืดๆหน่อย
แขกที่มาพักก็ลงไปเล่นน้ำกันตรงนี้เลย ทางขึ้นมีที่อาบน้ำด้วย แต่จ๊ะจ๋าขี้เกียจลงไป แหะๆ
เดินเล่นกันต่อ อยากไปดูสปาและฟิตเนส แต่เสียดายที่เค้าปิดแล้วเพราะเย็นแล้วค่ะ
ตรงนี้เป็นที่เรียนทำอาหารไทย
แถวๆสปามีที่นั่งเล่นด้วย
แล้วก็เดินมาเจอทางเข้าล็อบบี้อีก ก็คือเดินวนรอบรีสอร์ทเลยนั่นเอง
จากนั้นก็ออกไปทานข้าวเย็นข้างนอก เพราะมาหัวหินคือมาทานของอร่อยนั่นเอง
ทานมื้อเย็นที่ร้านอยู่เย็น อร่อยหมดเลย ปริ่มมมม
ทานเสร็จแล้วก็ออกมาเดินเล่นรอบๆ แวะทานโรตีร้านกูหน่อย มาหลายรอบแล้วไม่ได้ทานซะทีเพราะร้านปิดตลอด
คราวนี้ไม่ปิดก็เลยต้องจัด
วันที่จ๊ะจ๋าไป วันนั้นตำรวจเต็มเลย มาอารักขาองค์ภา มีกิจกรรมปั่นจักรยานในอีกวัน
ตอนที่ออกไปข้างนอกแล้วกลับเข้ามาก็เจอใบไม้จากพนักงานค่ะ บอกฝันดีแล้วก็บอกสภาพอากาศพรุ่งนี้ ในรูปอาจเห็นไม่ชัด เค้าวาดเป็นรูปก้อนเมฆกับฝนค่ะ นอกจากมีใบไม้ใบนี้แล้ว แม่บ้านก็เข้ามาดึงผ้าคลุมเตียงออกให้ค่ะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………
ตื่นมาทานอาหารเช้า ลูกค้าเต็มเลยค่ะ
มาถึงจ๊ะจ๋าก็ดิ่งมาตรงนี้เลย สั่งแพนเค้กลายการ์ตูน อิอิ
อิ่มหนำสำราญกับอาหารเช้ากันไป อร่อยทั้งนั้นเลยค่ะ พุงจะแตก
จากนั้นก็เข้าห้องพักไปนอนเล่นก่อน
ออกไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านลาแมร์ อาหารซีฟู้ดสดๆอร่อยมาก
จากนั้นก็ขับไปนวดตัวที่ร้านอะไรจำชื่อไม่ได้ค่ะ นวดเสร็จก็แวะมาทานขนมที่ร้าน Pony Cafe
จากนั้นก็ไปเดินเล่นตอนเย็นที่ Cicada ยันค่ำเลยค่ะ
กลับมาถึงที่พักเกือบจะ 4 ทุ่มละ ก็เลยขอแวะที่ Sala Siam หน่อย บรรยากาศดีเชียวค่ะ
ยังทันช่วงเวลา Happy Hour 10 นาที ก็เลยสั่งมาไว้ก่อน 2 เมนู อิอิ
ราคาลดไปตั้งครึ่ง จะพลาดได้ยังไงเนอะ
Complimentary ค่ะ มีถั่ว เผือกทอด เม็ดมะม่วง อัลมอนด์ พร้อมผ้าเช็ดมือ
Long Island Ice Tea ( 120 บาท ราคา Happy Hour )
ค็อกเทลที่นี่ทำอร่อยมากค่ะ ดื่มง่ายแต่แอลกอฮอลก็ไม่เบาเลย
น้ำสีน้ำตาลในหลอดที่ใส่มาเป็นโค้กค่ะ แล้วแต่ว่าอยากจะเทใส่มาก-น้อยแค่ไหน
Mojito
ด้านบนเป็นซินนามอน กลิ่นหอมๆค่ะ ใส่มาในถ้วยน้ำแข็ง จ๊ะจ๋าหยิบออกก่อนแล้วค่อยดื่ม
เครื่องดื่มเค้าครีเอทเมนูได้ดูดีมากค่ะ รสชาติก็เยี่ยมมาก
แก้วนี้จำชื่อไม่ได้ T^T รู้แค่ว่าอร่อยมาก หวานๆเปรี้ยวๆ เด่นที่กลิ่นเลยค่ะ คือหอมละมุนมากกก
ผู้ชายก็ดื่มเบียร์ไปนะ อิอิ
ค็อกเทล 3 แก้วของจ๊ะจ๋าหมดเลย ฮี่ๆ
พนักงานบริการดีมากค่ะ เพลงก็เพราะ นั่งสบายสุดๆ ทั้งหมดก็ 8xx บาท
ระหว่างทางก่อนกลับไปนอน แวะถ่ายรูปกับเพื่อน หน้างี้พริ้มเชียว 5555
อีกวันก็ตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าเหมือนเดิมแล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพค่ะ
โดยรวมแล้วดีหมด ห้องพักสวย รีสอร์ทสวย พนักงานบริการดี อาหารอร่อยมาก แต่มีข้อเสียที่เตียงนอนนี่ล่ะค่ะ นอนไม่สบายเลย ควรเปลี่ยนด่วนๆ จ่ายเงินมาแพงแล้วมานอนปวดหลังคือไม่ไหวนะ เตียงที่บ้านยังสบายกว่าเยอะเลย