สวัสดีค่า บล็อคนี้จ๊ะจ๋ากับอีกสองสาวไปเที่ยวกาญจนบุรีกันค่ะ จริงๆไปมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 58 แต่เพิ่งจะมาลง
ช่วงนั้นจ๊ะจ๋าชีพจรลงเท้ามาก คือเพิ่งกลับมาจากโอซาก้า ได้พักแค่สองวันเองมั้ง ก็เที่ยวต่อเลย และเป็นคนขับรถด้วยจ้าา
บอกก่อนเลยว่าทริปนี้เป็นทริปสาวโสดเที่ยวกันแบบมุ้งมิ้ง ไม่เน้นธรรมชาติหรือวิวมากเท่าไหร่ เน้นตัวเองล้วนๆ กร๊ากกก
เดินทางออกจากกรุงเทพประมาณ 9 โมง วันนั้นจำได้ว่า มีแต่คนแห่ออกมาเที่ยวต่างจังหวัด รถติดมากค่า
ตอนออกมาก็ขับเข้าไปแวะ Mc Donald’s Drive thu กะว่าจะไปหาข้าวเที่ยงทานที่กาญฯเลยว่างั้น
ทริปครั้งที่แล้วที่จ๊ะจ๋าพาครอบครัวไปเที่ยวกาญฯช่วงวันพ่อ ก็ได้แวะร้าน เล่นเส้นขนมจีนหมัก ก็เห็นว่าอร่อยดี
ทริปนี้ก็เลยแวะอีกรอบค่ะ
ร้านจะอยู่เลยแถวท่าเรือมาค่ะ มุ่งหน้าเข้ากาญฯ จะขับเจอทางรถไฟก่อนแล้วก็เตรียมตัวเข้าซ้ายเลย ไม่งั้นขับเลยไปแน่นอน
ก็สั่งทานกันแบบกรุบกริบ (จริงๆหิวโหย) จากนั้นก็ขับรถต่อ มุ่งหน้าเข้ากาญจนบุรีเลย
แวะถ่ายรูปสะพานข้ามแม่น้ำแควกันหน่อย
จริงๆแต่ละคนก็เคยมากันหลายรอบแล้วล่ะ แต่รอบนี้มากันสามคนไง ก็ต้องถ่ายรูปด้วยกันสิ
เดินไปวานให้ชายหนุ่มที่มาเที่ยวถ่ายรูปให้ หลังจากนั้นก็โดนเขาขอไลน์จ้า 55555 สวยไปอี๊กกกกก
อ่ะ แจกความสดใส โพสท่าสู้แดดมาก บอกเลยว่าร้อนสุดๆ
สถานีต่อไปคือร้าน 10 O’clock เป็นร้านที่เพื่อนอยากจะมานั่งทานเค้กชิลๆ
แต่กว่าจะมาถึงนั้น ขับรถวนมั่วเลยค่า โทรหาเจ้าของร้าน เค้าก็บอกว่าอยู่ใกล้โลตัส ก็ถามแล้วว่าโลตัสมีที่เดียวใช่มั้ย
เค้าก็บอกใช่ครับ เท่านั้นล่ะ ก็ขับไปโลตัส(ใหญ่) ก็คุยกัน “ไม่เห็นมีร้านเลยอ่ะแก”
ก็เลยโทรอีกแล้วก็ย้ำชัดเจนว่าติดโลตัสเลย ก็ยูเทิร์นเข้าโลตัสอีกรอบ นี่ถึงขนาดจอดรถในโลตัสแล้วกะว่าจะเดินหาเองเลย แต่มันร้อน เลยโทรหาที่ร้านอีกรอบ เค้าก็บอกว่าก็ถ้ามาจากสะพานข้ามแม่น้ำแควก็ขับมาเส้นด้านหลัง มาเรื่อยๆก็เจอแล้วครับ….ผ่าง ผ่าง ผ่างงงงง!!
นี่ขับออกมาเส้นหลักค่ะ ไม่ได้อยู่ถนนสายใน ก็เลยขับเข้าไปอีก ไปเจอทางแยก เลี้ยวผิดฝั่งอีก ก็ไปวนในโรงเรียนอะไรไม่รู้รอบหนึ่ง 55555 กว่าจะมาถึงร้านใช้เวลาเกือบชั่วโมง แต่พวกเราสู้! เพราะเจ้าของร้านเค้าบอกว่าถ้ามาถึงจะเลี้ยงน้ำฟรีเลย เค้าคงสงสารอ่ะ ตั้งใจกันสุดๆแต่ไม่ถึงซะที
มาถึงก็ดูเมนูอาหาร มีทั้งคาวหวานนะ แต่อยากขนมมาก ณ จุดนั้น (ประมาณ 4 โมงเย็นละ)
ก็เลยสั่งแต่ขนมและเครื่องดื่มไป
ระหว่างที่รอขนมมาเสิร์ฟก็ถ่ายรูปเล่นกันสิ รออะไร ร้านน่ารัก คนก็น่ารักขนาดนี้ < ชมตัวเองก็ได้ เพื่อนไม่ชม
และแล้วที่เวลาเรารอคอยก็มาถึง แต่เอ๊ะ! ไม่ได้สั่งสตอร์เบอรี่ชีสเค้กนะคะ สั่งบลูเบอร์รี่ค่ะ
เค้าก็เอาเข้าไปเปลี่ยนมาใหม่ แต่นี่มือไว ลั่นชัตเตอร์เรียบร้อย 55555
เครื่องดื่มแบบดูดีสำหรับสาวสวย(โสด)ทั้ง 3 คน
น้ำผึ้งมะนาวโซดา อภินันทนาการจากทางร้าน ขอบคุณข่าาาาา
ของเพื่อนเป็นชามะนาว On the rock คือน้ำแข็งก็เป็นชาค่ะ เรียกว่าเจ้มจ้นมาก
ของจ๊ะจ๋าเป็นโกโก้ On the rock อื้อหืออออ เจ้มจ้นสุดพลัง ไม่มีความหวานเลย เพราะไม่ได้เทไซรัปเองล่ะ อิอิ
Blueberry Cheesecake
คือไม่ได้คาดหวังว่าเค้กที่ต่างจังหวัดจะอร่อยนะเอาจริงๆ แต่พอเข้าปากเท่านั้นล่ะ
เหยยยยยย!! มันเด็ดมาก!! อร่อยกว่าร้านเค้กในกรุงเทพหลายร้านเลย จริงๆ
ชีสเค้กเนื้อนุ่มแบบละเอียดมาก นัวลิ้นสุดๆ ทำมาได้รสชีสเจ้มจ้น แยมบลูเบอร์รี่ก็ไม่ได้ปาดมาเบาๆ นี่กัดบลูเบอรี่ไปหลายลูกเลย ชนะเลิศมาก แนะนำเลยค่ะ
White chocolate Oreo Cheesecake
ไวท์ช็อคชีสเค้ก ตอนแรกก็คุยกันกับเพื่อนว่าต้องเลี่ยนแน่ๆ ไวท์ช็อคงี้ ท่าจะหวานน่าดู
แต่พอได้ลิ้มลอง อื้อหือออออ มันเด็ดยิ่งกว่าบลูเบอร์รี่ชีสเค้กอีกค่า
คือไม่ได้หวานเลี่ยนเลยแต่อย่างใด ทุกอย่างลงตัว ชีสเค้กที่นุ่มละมุนลิ้นเปรี้ยวๆหวานๆสอดแทรกด้วยโอริโอ้บดละเอียดที่เพิ่มความขมเล็กน้อย เติมความหวานด้วยซอสช็อคโกแลต คืออร่อยสุดๆ เคี้ยวกรุบกรับด้วย
ไม่อยากให้พลาดเลยจริงๆ ถ้ามาที่นี่ นี่ถึงขนาดคุยกันกับเพื่อนว่าพรุ่งนี้มาอีกมั้ยแก
แล้วเราก็ถ่ายรูป มุ้งมิ้งกัน
พอทานเสร็จก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่พักเลย เพราะคุยกับเจ้าของร้าน เค้าบอกว่าที่พักของพวกเราไปอีกไกลนะ แล้วนี่ก็เย็นละ เดี๋ยวจะมืดค่ำหาไม่เจออีก
แล้วก็ขับมาถึงโฮมพุเตย ริเวอร์แคว
เราจะนอนที่นี่ 2 คืนค่ะ บรรยากาศดีมาก เปิดประตูออกมาก็เห็นวิวแม่น้ำแควเลย
รีสอร์ทที่นี่กว้างมากๆค่ะ มีกิจกรรมครบครันนะ ทั้งกิจกรรม Adventure (ต้องติดต่อกับทางรีสอร์ท เสียค่าเล่นประมาณคนละพันกว่าบาท) น้ำพุร้อน สระว่ายน้ำ พายเรือคายัค
คืนละประมาณ 3,000 กว่าบาท แล้วก็จ่ายค่าเตียงเสริมอีกประมาณ 800-1,000 บาท/คืน จำไม่ได้ค่ะ
ห้องก็กว้างอยู่นะ
ห้องน้ำเป็นฝักบัวค่ะ
มาถึงก็สร้างแลนด์มาร์คด้วยการเซลฟี่กัน
แล้วก็ออกมาเดินสำรวจรอบๆกันเล็กน้อย เดินมาดูบ่อน้ำพุร้อน ซึ่งเวลานี้เค้าปิดแล้วค่ะ มันมืดละ แต่นี่ก็เดินมาดูไว้ก่อนสำหรับพรุ่งนี้ อิอิ
ถ่ายรูปเล่น เอามือหวักน้ำดู หูยยย ร้อนเลย
จากนั้นก็รีบเดินหนีค่ะ เพราะยุงเริ่มมาละ
เนื่องจากที่พักอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก (ประมาณ 20 กิโล) ก็เลยดินเนอร์ที่รีสอร์ทเลยละกัน
เมนูอาหารมีไม่มากค่ะ ก็สั่งมาตามที่อยากทานกันแต่ละคน ระหว่างทานนั้น เพื่อนก็ค่อยๆบอกว่า แกลุกมานี่ อย่าหันหลังนะ นี่ก็รีบลุกเดินไปหาเลย แล้วหันไปดู เว้ยยย! ตุ๊กแตตัวเบ้อเริ่มเกาะเสาที่ติดกับหลังจ๊ะจ๋าเลย ขนลุกเลย 555
ก็ย้ายโต๊ะกัน มื้อนี้อาหารไม่ค่อยอร่อยบอกเลย เสียใจสุด ราคาก็ราคาโรงแรมนั่นล่ะ ส่วนรสชาติและวัตถุดิบโลว์มากค่ะ
ซุปเห็ดกับขนมปัง ตอนที่เห็นคือยังไม่เท่าไหร่ พอเอาช้อนตักเท่านั้นล่ะ มันข้นมาก ข้นเกินซุป รสชาติก็ไม่อร่อย แล้วขนมปังที่เสิร์ฟมาเป็นขนมปังแถวราคาถูกๆเลยค่ะ
ปีกไก่บาร์บีคิวพอทานได้แบบหิวโหย ส่วนสลัดที่เห็น นั่นสาบานว่าซีซาร์สลัด? แค่ผักก็คนละชนิดแล้ว น้ำสลัดก็ไม่ใช่ ห่วยมากค่ะ ไม่มีความอร่อย
ก็เลยเดินกลับเข้าห้องไปนอนกันดีกว่า
เช้าแล้วววว ตื่น 8 โมงเพื่ออาหารเช้าเลยนะ
อยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจี อยากจะเอาอากาศใส่กระป๋องกลับกรุงเทพจริงๆ
เดินมาที่เรานั่งดินเนอร์กันเมื่อคืน จัดไลน์บุฟเฟ่ต์แบบน่ารักจุ๋มจิ๋ม อาจจะเพราะคนน้อยด้วยก็เลยมีน้อย
ส่วนไส้กรอก แฮม ไข่ดาวหรือออมเลท ต้องเดินไปออร์เดอร์เองนะคะ
เราไม่อยากนั่งด้านใน อยากจะทานมื้อเช้าท่ามกลางธรรมชาติ ฟังเสียงน้ำไหล (เวอร์ไปป่ะ 555)
ก็เลยถือจากออกมานั่งกันตรงนี้
แล้วก็ทานมื้อเช้ากันอย่างหรรษา แต่ก็นะ ไม่ค่อยอร่อยหรอก
อิ่มแล้วก็เข้าห้อง จ๊ะจ๋าขอหลบแดดอยู่ในห้องแพร้บ ส่วนเพื่อนๆ 2 คน นางอยากถ่ายรูป
ก็เลยให้นางเอากล้องไปถ่ายกันตามใจชอบ แล้วรูปก็อยู่ในมือเรา เย่! เสร็จฉันล่ะ 5555
พริ้มมม
นี่ก็อยากจะฮิปสเตอร์เหลือเกิน
เอาล่ะ ถึงเวลาต้องออกไปข้างนอกละ จะออกไปหาข้าวเที่ยงทานกัน
คือเอะอะก็นึกแต่เรื่องกินสินะคิตตี้จ๊ะจ๋า 5555
แล้วก็ขับรถออกจากรีสอร์ท มาสู้เส้นทางถนนอันเวิ้งว้าง เจอร้านครัวผักหวาน ก็เลี้ยวเลยค่ะ
เมนูเป็นผักหวานเยอะเลย ก็เลยสั่งยำผักหวาน ยำไข่ดาวผักหวาน ยำผักหวานกรอบ ต้มยำน้ำข้น
อร่อยทุกเมนู เด็ดจริงๆ ราคาก็ไม่ได้ธรรมดาบ้านๆนะจ๊ะอย่าเข้าใจผิด ^^
ท้องอิ่มแล้วก็ออกมาสู้รบกับแสงแดดและอากาศอันอบอ้าวกันต่อ
มาที่ทางรถไฟสายมรณะ พอก้าวเท้าลงจากรถเท่านั้นล่ะ เหงื่อพรึบ! มันร้อนมาก
เพราะก่อนจะมาถึง ฝนก็ตกไปแล้วเพิ่งหยุด ยิ่งอบอ้าวไปกันใหญ่
เพื่อนขอแวะไหว้พระกันก่อน
แล้วเราก็ถ่ายรูปที่ทางรถไฟ ทำหน้าตายิ้มแย้มประหนึ่งว่าอากาศเย็นสบาย อยู่บนดอย
วานคนแถวนั้นให้ช่วยถ่ายรูปให้อีกแล้วค่ะ ไม่ใช้ไม้เซลฟี่กันเลยสินะพวกเรา 5555
มาที่นี่กี่ครั้ง จ๊ะจ๋าก็แวะซื้อโรตีมะพร้าวตลอดเลย และครั้งนี้ก็ไม่พลาดเช่นกัน แม้อากาศจะร้อนจนจะเป็นลม นี่ก็ยังจะทานของร้อนๆสินะ ซื้อเสร็จรีบวิ่งขึ้นไปทานบนรถเลย
จริงๆกะว่าจะไปทานข้าวเย็นที่ร้านห้อยขาในเมืองกาญฯ แต่ด้วยระยะทางที่กว่าจะไปถึง กว่าจะขับกลับ
บวกกับทางที่ไม่มีแสงไฟรายทางตอนขึ้นเขา ก็เลยเปลี่ยนจุดหมายกัน ไม่เข้าเมืองนะ อยู่รอบนอกนี่ล่ะ ไปเข้าฟาร์มเจียไต๋กันละกัน ซื้อเมล่อนกันเถอะ
ถ้ามากาญจนบุรีจะเห็นร้านขายเมล่อนตามข้างทางเยอะแยะเลย แต่ถ้าซื้อที่นี่ราคาจะถูกสุดค่ะ กิโลละ 99 บาท
จ๊ะจ๋ากับเพื่อนหยิบมาคนละลูก จ่ายไป 120 บาท ได้ 2 ลูก เพราะเค้าซื้อ 1 แถม 1 ขุ่นพระ! มันถูกมาก
เค้ามีให้ชิมก่อนด้วยนะ หวานชื่นใจ
น้ำเมล่อนปั่นเย็นๆ มันหวานจนยอมแพ้เลย
จากนั้นก็ขับรถเข้ารีสอร์ทเลย ไปแช่น้ำพุร้อน ที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาฝาก 5555 เพราะมัวห่วงเล่น ไม่คิดจะถ่ายรูป กลัวกล้องเปียก กลัวพังเนอะ แล้วก็ซื้อขนม อาหารจากเซเว่นไปทานเป็นมื้อเย็นแทน เพราะอาหารที่รีสอร์ทไม่น่าพิศมัยเลย
เช้าอีกวัน วันนี้คนเยอะกว่าเมื่อวาน เค้าเลยจัดไลน์บุฟเฟ่ต์มากกว่าเดิมหน่อยค่ะ
ทานมื้อเย็นกันอย่างสำราญแล้วก็กลับไปเก็บกระเป๋าเช็คเอาท์ค่ะ หมดเวลาสนุกแล้วสิ
ก่อนจะกลับ ก็ขอเแวะร้านอาหารร้านดังของที่เมืองกาญฯกันหน่อย ร้านชุกโดน (ชุก-กะ-โดน)
ร้านนี้มีข้อเสียตรงที่จอดรถค่ะ ที่จอดรถน้อยมาก ต้องจอดกันข้างทาง แล้วร้านอยู่ลงเนินมาอีก ถนนก็เล็บ แคบสุดๆ แต่คนก็แห่กันมาทานนะคะ
ดูหน้าเพื่อนด้วย อารมณ์ไม่ดีละ อากาศร้อน หาที่จอดลำบาก พนักงานบริการแย่
แต่อาหารเค้าสด อร่อยอยู่นะ
ทริปนี้ก็ลั้ลลา มุ้งมิ้งกันไป เน้นมาพักผ่อน ไม่ได้มาเที่ยวแอดเวนเจอร์กันเท่าไหร่ค่ะ