สวัสดีค่า บล็อคนี้มาต่อกันที่การเดินทางไปพักผ่อนที่เขื่อนเชี่ยวหลาน (เขื่อนรัชประภา จ.สุราษฯ)
ก่อนหน้านี้คือไปพักที่สมุยมา 2 คืนค่ะ แล้วก็นั่งเรือเฟอร์รี่ออกจากเกาะตอนสายๆ มาถึงท่าเรือดอนสักประมาณ 11 โมง ก็มีรถตู้ที่จองเอาไว้มารอรับอยู่แล้ว ราคาค่าไปรับจากท่าเรือมาเขื่อนแบบเหมาคัน 3,000 บาท แพงน้ำตาจะไหล
นั่งรถตู้มาถึงเขื่อนใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ฝนตกตลอดทาง คนขับรถก็จะหลับตลอด น่ากลัวมาก
เพื่อนหลับกันทั้งคันแต่จ๊ะจ๋าไม่ได้หลับ และด้วยการที่นั่งแถวหน้าสุดก็เห็นพฤติกรรมคนขับตลอด มีขับๆแล้ววูบ ออกนอกทางด้วย ก็เลยปลุกให้เพื่อนมาคุยกับเค้า หลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องก็กลายเป็นว่าไม่มีใครหลับลงอีกเลย
มาถึงเขื่อนแล้วค่า ฝนตกๆหยุดๆตลอด
ลงเรือกันเล้ยยยย เรือหางยาวลำที่จ๊ะจ๋าและเพื่อนๆเดินทางนั้นไม่มีหลังคาค่ะ ฝนก็กำลังจะตก ก็ซวยกันไป
พี่คนขับเรือเค้าดีมากค่ะ กลัวว่ากระเป๋าของทุกคนจะเปียกก็เลยมาทำการนำกระเป๋าห่อไว้ในผ้าคลุมผืนใหญ่สีดำให้
วิวสวยมากค่ะ น้ำเขียวอื๋อเลย แอบกลัวเบาๆ
ถ่ายรูปผู้เดินทางทริปนี้กันหน่อย!
ทริปสมุยมาด้วยกัน 8 คน แต่เพื่อนอีกหนึ่งคนต้องกลับก่อนเพราะมีติดธุระสำคัญ
แวะถ่ายรูปกันที่กุ้ยหลินเมืองไทยกันหน่อย ในรูปสีดูซีดๆเพราะปรับแสงเอาค่ะ ถ่ายรูปออกมาย้อนแสงมืดไปหน่อย
และแล้วก็เดินทางมาถึงแพที่พักแล้วค่ะ “แพคีรีวาริน รีสอร์ท”
ที่นี่เค้ามีหลายแพ็คเกจนะคะ พวกเราเลือก โปรแกรม 2 วัน 1 คืน แพคีรีวาริน -น้ำตกบางหอย – Morning safari – กุ้ยหลินเมืองไทย คนละ 2,xxx บาท จำราคาไม่ได้ค่ะ
จริงๆตามโปรแกรมเค้าเริ่มตั้งแต่ 11 โมง แต่พวกเรามาถึงช้าค่ะ เค้าก็ยังคงเก็บข้าวมื้อเที่ยงเอาไว้ให้
มาเช็คอินกันก่อน ที่นี่มีขายขนม น้ำดื่มและเครื่องดื่มบ้าง ราคาก็จะแพงกว่าปกติประมาณ 20-30 บาท
ถ้าไม่อยากเสียเพิ่มก็ขนมาจากฝั่งเอาเองนะคะ
มีที่นั่งทานอาหารจำนวนพอดีกับที่พักในรีสอร์ทค่ะ
เวลาทานอาหารก็จะมากันพร้อมหน้าพร้อมตากันเต็มเลยค่ะ
เช็คอินแล้วก็เอาสัมภาระไปเก็บไว้ที่ห้องกันก่อน มากัน 7 คน ได้พักบ้านหลังใหญ่มีสองชั้นค่ะ
ชั้นล่างมี 3 เตียง พร้อมห้องอาบน้ำและห้องส้วมในตัว
มีระเบียงไว้นั่งชิลด้วย แต่ฝนตกแบบนี้ชิลยากนิดนึง
มาถึงแล้วก็ขอแชะหน่อย
ชั้นบนต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นมาจากทางด้านหลัง ต้องเดินระวังๆเลยค่ะ มันลื่นมาก
เป็นห้องใต้หลังคาเนอะ เวลาเดินก็ต้องก้มตลอดเวลา ทางเข้า-ออกที่ประตูก็เช่นกัน มันเตี้ยมาก
จ๊ะจ๋าเดินแล้วหัวไปชนหลายรอบมาก แทบจะทุกครั้งเลยก็ว่าได้ หัวปูดเลยทีเดียว
ห้องด้านบนมีเตียงเล็กๆ 4 เตียง แบ่งไว้ด้านละ 2 ในห้องนอนมีพัดลมให้ 1 ตัว (ห้องด้านล่างก็มีเช่นกัน)
แต่ไม่มีปลั๊กเสียบนะคะ เค้าใช้ไฟฟ้าโดยตรง มีสวิชไฟปิด-เปิดได้ก็ดีละ
วิวจากระเบียงห้องด้านบนค่ะ
วิวหลังบ้านค่ะ ห้องน้ำของหลังใหญ่จะมีทั้งหมด 4 ห้อง : ห้องอาบน้ำ 2 ห้องและห้องส้วม 2 ห้อง
ห้องพักที่เรานอนกันคือทางขวามือค่ะ ส่วนทางซ้ายเป็นห้องที่เล็กกว่า
นี่คือห้องเล็กค่ะ แอบสงสัยว่าทำไมห้องเล็กถึงมีอ่างล้างมือและกระจกส่องด้วย
ห้องใหญ่ไม่มีเลยจ้าาาา
เก็บของเสร็จแล้วก็ไปทานข้าวกันดีกว่า หิวจะแย่ละ
กับข้าวคือทางรีสอร์ทเค้าเตรียมไว้ให้ค่ะ สามารถรีฟิลได้เรื่อยๆ
และพวกเราก็สั่งไข่เจียวมาเพิ่ม 3 จาน ทานกับแกงไตปลาอร่อยเลย
เมื่ออิ่มแล้วก็รีบขึ้นเรือมาน้ำตกบางหอยค่ะ (ประมาณ 4 โมงเย็นละ)
นี่คือกลุ่มที่มาก่อนหน้านี้เค้ากำลังลงมาค่ะ
เห็นแล้วดูทุลักทุเลในการปีนป่าย ก็เลยกะว่าจะไม่ขึ้นไปข้างบนกัน มาดูแล้วก็กลับ
แต่พี่ๆเค้าบอกว่าขึ้นไปเลยน้อง ข้างบนสวยมาก เท่านั้นล่ะ…เปลี่ยนใจไปถอดรองเท้าแล้วก็เดินขึ้นไปเลย
โขดหินที่ดูเหมือนจะต้องลื่นแน่ๆ แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดค่ะ ค่อยๆขึ้นอย่างระมัดระวังก็ไม่อันตรายเลย
น้ำเย็นสบายมาก ขึ้นไปได้สักพักก็กลับลงมาเพราะเดี๋ยวจะมืดซะก่อน
กลับมาถึงก็พายเรือเล่นกัน
จากตอนแรกที่จ๊ะจ๋าพายไม่เป็นและคิดว่าต้องพายไม่ไหวแน่ๆ แต่พอได้ลองแล้วติดใจ พายไปพายมาสนุกเลยค่ะ
ได้เหงื่อดีมากพูดเลย ก็พายเล่นกันจนถึง 6 โมงกว่าๆก็ไปทานมื้อเย็นกันค่ะ (เพิ่งทานมื้อเที่ยงไปได้แปปเดียวเอง)
ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมื้อเย็นมาเพราะว่าฝนตกเลยไม่อยากเอากล้องเดินตากฝนไปค่ะ พอทานอาหารกันอิ่มแล้วก็เข้าที่พัก อาบน้ำแล้วลงมานั่งเล่นกันที่ห้องด้านล่าง ประมาณ 5 ทุ่มกว่าก็ขึ้นไปนอนค่ะ เพราะตอนเช้ามีโปรแกรมรออยู่
ตื่นแล้วบิดขี้เกียจ ล้างหน้าแปรงฟันเพื่อเตรียมตัวไปล่องเรือตามโปรแกรม Morning Safari
ตามโปรแกรมเริ่ม 6 โมงเช้า แต่ 6 ครึ่งเพิ่งจะตื่นกัน ก็เลยได้ไปตอน 7 โมง ก็ยังทันอยู่
ล่องเรือตอนเช้าอากาศเย็นๆ
แดดจ้ามากค่ะ เค้าจะพาไปอยู่ที่จุดชมวิวที่มีลิงมีนกอยู่บนต้นไม้ เห็นเล่นกันดูน่ารักดี
สักพักฝนก็ตก ก็เลยกลับไปที่แพ หมอกก็ลงในบางที่
มื้อเช้ามีข้าวต้มหมู แพนเค้กและหมี่ผัด จ๊ะจ๋าชอบหมี่ผัดที่สุด แต่ลืมถ่ายมา แพนเค้กก็อร่อยค่ะ แต่ข้าวต้มนี่จืดมาก ต้องปรุงเยอะๆ
จากนั้นก็กลับห้องไปอาบน้ำ เก็บของและเช็คเอาท์ 9 โมงครึ่งค่ะ
ไฟลท์บินกลับกรุงเทพคือ 20.50 น. แต่เช็คเอาท์ตั้งแต่ 9 โมงครึ่ง โอ้วววว
นั่งจากแพมาถึงฝั่งก็ประมาณ 10 โมงกว่า ซึ่งมีคนขับรถตู้(ลุงคนเดิม)มารอรับอยู่แล้ว เที่ยวนี้โดนไปอีก 1,500 บาท
ไป-กลับกับลุงก็ 4,500 บาทค่ะ แพงดีนะ ระหว่างทางก็อยากทานข้าวร้านขึ้นชื่อหน่อย แต่เค้าไม่แวะให้ค่ะ เค้าบอกว่าราคานี้คือรับไปส่งสนามบินเท่านั้น เหอๆ
เค้าก็พาพวกเรามาส่งไว้สนามบินแล้วบอกว่าเดี๋ยวพาไปส่งเซ็นทรัลก่อนก็ได้แล้วค่อยนั่งรถกลับมากันเอง ก็เลยเอางั้นก็ได้ เหลืออีกตั้งหลายชั่วโมง มื้อเที่ยงของพวกเราผู้หิวโหยคือบุฟเฟ่ต์ที่ชาบูชิค่ะ ทานกันจนครบเวลา จากนั้นก็เริ่มง่วงนอนเลยซื้อตั๋วหนังเรื่อง Fantastic 4 เข้าไปนอนกัน ดูหนังเสร็จก็ประมาณ 5 โมงกว่าๆ ก็ไปหารถหน้าเซ็นทรัลกลับสนามบิน มากัน 7 คน เค้าให้ขึ้นคันละไม่เกิน 4 คน คันละ 300 บาท
แวะทานข้าวในสนามบิน แล้วก็เข้ามานั่งรอด้านใน สนามบินสุราษฯเล็กมากค่ะ ที่นั่งรอเตรียมขึ้นเครื่องคือห้องนี้ล่ะ มีแค่นี้
ไม่ต้องใช้รถรับ-ส่งค่ะ ผู้โดยสารเดินจากอาคารไปขึ้นเครื่องบินเองเลยจ้าาา
ทริปนี้ก็จุกกันไปตามๆกันกับค่าเดินทาง โทษใครไม่ได้เพราะไม่หาข้อมูลกันเอง ถ้าจะเที่ยวช่วงนี้ก็ให้ทำใจเรื่องฝนเลยค่ะ ตกตลอดเลย
ทริปนี้โดนไปกันประมาณ 10,000บาทค่ะ