เฮ้~~ จ๊ะจ๋าอยากไปเที่ยวปายมานานแล้วค่ะ เพราะเคยดูละครเรื่องหนึ่ง (อย่าถาม จำชื่อเรื่องไม่ได้ :P) แล้วเค้าถ่ายทำที่ปาย เห็นวิวแล้วสวยมาก เลยอยากไป แต่ก็ได้ยินเรื่องโค้งมาเยอะเหมือนกันว่าใครไปเที่ยวก็ไม่รอด ต้องอ้วกแน่ๆ นี่ก็เมารถนะ แต่ก็อยากไปก็เลยจัดไปต้นปีเลยละกันค่ะ
วันที่ 27 มกราคม 2558 เดินทางจากสนามบินดอนเมืองมุ่งหน้าสู่จ.เชียงใหม่ มาไฟลท์เช้าเลยค่ะ ต้องบอกก่อนว่าตื่นสายเช็คอินไม่ทัน ทริปนี้เลยต้องซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่เลย T^T รู้สึกเปลืองมาก แต่จะไม่มาก็ไม่ได้ ห้องพักกับรถก็จองไว้หมดแล้วเนอะ
มาถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณเกือบเที่ยง โทรบอกทางรีสอร์ทว่ามาถึงแล้ว ก็มีคนมารับจากสนามบินไปส่งที่คิวรถตู้ค่ะ แล้วก็นั่งรถตู้จากเชียงใหม่ไปปาย แต่ยังไม่ทันได้ขึ้นรถตู้ก็อาเจียนข้างรถเลยค่ะ เพราะจ๊ะจ๋าพักผ่อนน้อย (ก่อนเดินทางได้นอนแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ไปเที่ยวแล้วกลับดึกแล้วก็นั่งจัดกระเป๋าต่อ รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้วค่ะ) พอจะรู้ชะตากรรมตัวเองแล้วว่าต้องไม่รอดแน่ๆ ขอถุงจากคนขับรถไว้เลย 2-3 ใบ แล้วก็เป็นไปตามคาด อาเจียนตลอดการเดินทาง แม้จะได้นั่งแถวหน้าสุดแล้วก็ตาม T^T
ใช้เวลากับการนั่งรถตู้อันทรมาณประมาณ 3-4 ชั่วโมงค่ะ มีจุดพักรถแปปนึงบนเขาให้ได้ออกไปสูดอากาศแล้วก็ซื้อสตอเบอร์รี่ เมื่อมาถึงปาย จ๊ะจ๋าก็โทรบอกทางรีสอร์ท จากนั้นก็มีรถจากรีสอร์ทมารับเข้าที่พักค่ะ
คืนนี้เราจะพักที่ The Oia รีสอร์ท จ๊ะจ๋าซื้อ Voucher จากงานไทยเที่ยวไทยไว้นานแล้วค่ะ ซื้อตั้งแต่ปีที่แล้วเพิ่งจะได้เที่ยวปีนี้ 5555
The Oia (ดิ เอีย) ชื่อนี้คืออะไร งงๆใช่มั้ยคะ พนักงานบอกว่ามาจากคำว่า อ้วก + เพลียค่ะ
อันนี้เห็นด้วยนะ เอียจริงๆกว่าจะถึงปาย
อากาศยามบ่ายคือแดดร้อนนะ แต่อากาศก็ยังเย็น
รีสอร์ทสวยมาก ไม่ผิดหวังเลยที่เลือกพักที่นี่ค่ะ
เข้าห้องพักกันดีกว่า อยากจะพักผ่อนจะแย่แล้ว
มีน้ำเปล่าให้ฟรี 2 ขวดนะคะ มีผลไม้เป็น Complimentary ด้วย แต่สตอเบอร์รี่นั่นไม่ใช่นะ ซื้อมาเองจากจุดพักรถค่ะ
ตู้เสื้อผ้ามีชุดคลุมให้พร้อมเผื่ออยากจะลงไปเล่นน้ำ
ห้องนอนสวยน่ารักแบบดิบๆดีค่ะ
มีโซฟานั่งชิลริมหน้าต่างด้วย จะว่าไปโซฟานี่ก็ใหญ่จนเป็นเตียงได้เลยล่ะ
ถัดมาก็เป็นประตูเปิดออกไประเบียงได้
ห้องน้ำกว้างขวางค่ะ แต่พื้นปูนนี่เย็นยะเยือกเลยล่ะ
แอบไม่ชอบประตูห้องน้ำค่ะ เป็นประตูไม้ที่ปิดไม่สนิท คือเค้ามีไม้ล็อคด้านในอย่างเดียว แล้วมันไม่แน่นที่จะทำให้ประตูปิดสนิท เพราะฉะนั้นเวลาเข้าห้องน้ำก็อาจจะมีกลิ่นเข้าห้องนอนได้ ก็ดมกันไปนะ
Amenities ครบครัน
นี่ไม่ใช่ถุงของขวัญจากซานต้านะคะ คือถุงใส่ไดร์เป่าผมค่ะ
ชุดนอน?
ประมาณ 5 โมงเกือบๆ 6 โมงก็ออกมาเดินเล่น อากาศเริ่มเย็นลงแล้วค่ะ
เดินจนมาถึงร้านอาหารของทางรีสอร์ท ก็กะว่าทานมื้อเย็นที่นี่ไปเลยละกัน
เห็นบันไดก็อยากรู้ว่าข้างบนมีอะไร ก็ขึ้นไปเลยค่า
เป็นที่ชมวิวรอบๆรีสอร์ทค่ะ แล้วก็ถ่ายรูปได้ด้วย เก๋ไปอี๊กกกก
ช่วงที่ไปก็มีลูกค้ามาพักเยอะค่ะ คนจีนก็เยอะ ลงเต็มรีสอร์ทเลย แล้วเด็กเยอะมาก ค่อนข้างวุ่นวานส่งเสียงดังสร้างความรบกวนมากค่ะ
เลือกนั่งโต๊ะนี้ล่ะ
สั่งอาหารทั้งหมด 4 อย่าง เป็นเมนูอาหารไทยและแบบแม็กซิกัน รสชาติอร่อยหมดเลยค่ะ แต่อากาศมันเย็นมากประมาณ 10 องศา ทำให้อาหารเย็นอย่างรวดเร็ว ยิ่งต้มยำกุ้งนี่นึกว่าแช่ตู้เย็นมา
นั่งทานข้าวไปตัวก็เริ่มสั่น เพราะชุดที่ใส่มานั้นบ๊างบางไม่เข้ากับอากาศเล้ยยย ก็ใครจะไปคิดว่ายังหนาวอยู่เนอะ ก็นึกว่าปลายเดือนมกราคมแล้วจะเริ่มอุ่นแล้วซะอีก
ทานข้าวเสร็จก็เดินชมวิวรอบๆรีสอร์ท ไปเจออุโมงค์ก็เลยเดินลอดเข้ามา เจอกับห้องสมุดเล็กๆ ที่นี่มีหนังสือ นิตยสารให้อ่านเล็กน้อย แล้วก็เก้าอี้หัวเข้าสระว่ายน้ำ ดูชิลดี แต่อากาศหนาวเหน็บตอนนั้นก็ขอบาย
หลังจากทานข้าวก็ตั้งใจว่าจะออกไปเดินเล่นถนนคนเดิน แต่ด้วยสภาพจ๊ะจ๋าที่อาเจียนมาตลอดทาง นอนน้อยแล้วก็อากาศอันหนาวเหน็บ ทำเอาไข้ขึ้นเลยค่ะ แฟนก็ต้องไปขอยาจากพนักงานมาให้แล้วก็หลับปุ๋ยอดไปเที่ยว T^T
ตอนเช้าก็เดินไปที่ทานอาหารเย็นเมื่อวานค่ะ เนื่องจากนอนหลับสบายก็เลยมาทานอาหารเช้าสาย เกือบจะ 10 โมงแล้ว ซึ่งเค้าปิดไลน์อาหารเช้า 10 โมงค่ะ
อิ่มหนำสำราญกันไป
อิ่มแล้วก็ไปถ่ายรูปเล่นกันก่อนจะเช็คเอาท์ค่ะ
ปั่นจักรยานเล่นด้วย
แล้วก็นั่งรถกลับไปที่สถานีปายเหมือนเดิมโดยรถน่ารักคันนี้
ถ่ายรูปลารีสอร์ทกันไป สวยเป๋อ (สวยเอ๋อ+ปาย มั้งนะ)
น่าเสียดายที่จองหัองพักไว้แค่คืนเดียว เพราะจ๊ะจ๋าจะไปพักผ่อนต่อที่เชียงใหม่อีกค่ะ ถ้ารู้ว่ามาแล้วจะเมารถขนาดนี้คงจะจองมาสัก 3 คืนแน่ๆ